Sabrage (ซาบราจ)
แชมเปญเป็นเครื่องดื่มที่มีความเกี่ยวข้องกับการเฉลิมฉลองและความหรูหรามาอย่างยาวนาน ไม่ว่าจะเป็นงานสังสรรค์ พิธีการแต่งงาน การฉลองชัยชนะจากสงคราม หรือแม้แต่พิธีการของราชวงศ์ชั้นสูง ซึ่งหนึ่งในวิธีการเฉลิมฉลองแชมเปญที่สนุกสนาน ตื่นเต้น และได้รับความนิยมมากที่สุดก็คือศิลปะการเปิดขวดด้วยดาบหรือที่เรียกว่า Sabrage (ซาบราจ)
ศิลปะการเปิดแชมเปญด้วยดาบมีประวัติศาสตร์ยาวนานและมักถูกมองว่าเป็นไฮไลท์ในหมู่ผู้ชื่นชอบการสังสรรค์และสร้างความประทับใจ โดยต้นกำเนิดของการใช้เทคนิคนี้มีประวัติย้อนหลังไปถึงฝรั่งเศสในช่วงสงครามนโปเลียนช่วงปลายศตวรรษที่ 18 ซึ่งเป็นยุคที่เต็มไปด้วยการสู้รบและการเฉลิมฉลองชัยชนะ
กำเนิด Sabrage: จากสนามรบสู่โต๊ะอาหารอันหรูหรา
กล่าวกันว่าเทคนิคนี้เริ่มต้นมาจากทหารม้าของนโปเลียน โบนาปาร์ต ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีในเรื่องความกล้าหาญและความรวดเร็ว เนื่องจากพวกเขามักจะฉลองชัยชนะอย่างรวดเร็วและยิ่งใหญ่ในสนามรบ โดยการใช้ดาบประจำกายเปิดขวดแชมเปญขณะที่ยังนั่งอยู่บนหลังม้า เพื่อความรวดเร็วในการดื่มฉลอง เพราะจุกแชมเปญในสมัยก่อนนั้นเปิดยากมาก การฟันด้วยดาบจึงเป็นวิธีที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ซึ่งเมื่อจุกหลุดออกไป แรงดันภายในขวดที่สูงถึงประมาณ 5-6 บรรยากาศก็จะทำให้แชมเปญพุ่งออกมาอย่างสวยงาม ทำให้ในยุคนั้นศิลปะการเปิดขวดแชมเปญด้วยวิธีนี้ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในกลุ่มทหารของนโปเลียน โดยพวกเขามักจะฝึกฝนและแข่งขันกันจนเป็นประเพณี เพื่อเรียกเสียงเชียร์และเสียงปรบมือจากเพื่อนทหารและผู้ที่ได้พบเห็น สร้างขวัญกำลังใจและบรรยากาศแห่งชัยชนะ
เมื่อเวลาผ่านไป เทคนิคนี้ก็ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็วในหมู่ขุนนางฝรั่งเศส โดยเฉพาะในหมู่ชนชั้นสูงที่จัดงานเลี้ยงเฉลิมฉลองบ่อยครั้ง จนกลายเป็นสัญลักษณ์ของความยิ่งใหญ่ ความกล้าหาญ และความเฉลียวฉลาด ซึ่งในงานเฉลิมฉลองต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นงานเลี้ยงต้อนรับ งานแต่งงาน หรือเทศกาลสำคัญ เจ้าภาพมักจะมีโชว์เปิดขวดแชมเปญด้วยวิธีนี้เพื่อต้อนรับแขกที่มาร่วมงาน สร้างความตื่นตาตื่นใจและความประทับใจให้กับผู้ร่วมงานได้อย่างไม่รู้ลืม
ศิลปะและความแม่นยำของ Sabrage: เคล็ดลับสู่ความสำเร็จ
การเปิดแชมเปญด้วยวิธีนี้ต้องอาศัยความแม่นยำและไหวพริบอย่างสูง ไม่ใช่เพียงแค่ใช้แรงเท่านั้น อีกทั้งผู้ที่จะทำการเปิดขวดแชมเปญด้วยวิธีนี้ต้องได้รับการฝึกฝนมาเป็นอย่างดี และเข้าใจหลักการทางฟิสิกส์ของแรงดันในขวดเป็นอย่างดี เนื่องจากเทคนิคนี้เกี่ยวข้องกับการใช้มีดคม ดังนั้นจึงอาจก่อให้เกิดอันตรายหากไม่เชี่ยวชาญ และต้องคำนึงถึงความปลอดภัยเป็นอันดับแรกเสมอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการหันปากขวดไปในทิศทางที่ปลอดภัย ห่างจากผู้คนและสิ่งของที่อาจเสียหายได้
นอกจากนี้ การเปิดแชมเปญด้วยดาบยังมีปัจจัยสำคัญอีกหลายประการที่ต้องพิจารณา เพื่อให้การเปิดเป็นไปอย่างราบรื่นและปลอดภัย:
การเลือกขวดแชมเปญที่เหมาะสม: ควรเลือกแชมเปญที่มีคุณภาพดีและมีรอยตะเข็บ (seam line) ชัดเจน โดยส่วนมากแล้วควรนำแชมเปญไปแช่เย็นให้ได้อุณหภูมิประมาณ 7 - 8 °C (45-46 °F) และแช่ทิ้งไว้ในแนวนอนอย่างน้อย 30 นาที เพื่อให้ความเย็นกระจายทั่วขวด เนื่องจากขวดที่เย็นจัดจะช่วยลดแรงดันและฟองเมื่อแชมเปญถูกเปิดออก ทำให้การเปิดทำได้ง่ายขึ้นและลดการสูญเสียแชมเปญ
เทคนิคการถือและการฟันดาบ:
- การถือขวด: ถือขวดแชมเปญทำมุมเฉียงขึ้นประมาณ 30-45 องศา โดยหันก้นขวดเข้าหาตัว เพื่อให้ควบคุมได้ง่าย และให้ปลายขวดหันออกข้างนอก (ห่างจากตัวผู้เปิดและผู้ชม) และต้องมั่นใจว่าไม่มีใครอยู่ในแนวที่จุกและปลายขวดจะพุ่งออกไป
- การเล็งดาบ: หาแนวตะเข็บของขวดซึ่งเป็นจุดที่บอบบางที่สุด และให้คมดาบ (ไม่ใช้ปลายแหลม) ทำมุมเฉลียงประมาณ 45 องศา กับแนวตะเข็บนั้น เลื่อนคมดาบไปที่บริเวณส่วนโค้งจากกลางขวดสู่ปากขวด (ส่วนที่เชื่อมต่อกับคอขวด)
- การฟัน: ทำการสไลด์คมมีดลงตามส่วนโค้งคอขวดจนไปกระทบกับขยักที่ปากขวด โดยไม่ต้องใช้แรงมาก แต่ต้องทำด้วยความรวดเร็วและมั่นคง เสมือนการใช้แรงเหวี่ยงที่เฉียบคม ไม่ใช่การสับหรือฟันอย่างรุนแรง เท่านี้จุกขวดก็จะหลุดออกไปพร้อมกับส่วนปลายขวดเล็กน้อย แรงดันภายในขวดก็จะพาเศษแก้วที่หลุดออกไปตามจุก ไม่ให้ตกค้างในแชมเปญ และแชมเปญจะไหลออกมาเล็กน้อยเพื่อชะล้างเศษแก้วที่อาจติดอยู่
Sabrage ในยุคปัจจุบัน: มรดกแห่งการเฉลิมฉลอง
ทุกวันนี้เทคนิคการเปิดขวดแชมเปญด้วยดาบกลายเป็นการแสดงที่เพิ่มสีสันและเป็นเอกลักษณ์ให้กับการเฉลิมฉลอง ไม่ว่าจะเป็นงานแต่งงานที่หรูหรา งานเลี้ยงส่วนตัว หรือแม้แต่งานเปิดตัวสินค้าใหญ่ๆ ซึ่งได้รับการอนุรักษ์ไว้โดยสมาคม Confrérie du Sabre dOr (กงฟราเตอรี ดู ซาเบรอ ดอร์) หรือ Brotherhood of the Golden Sabre (ภราดรภาพแห่งดาบทองคำ) ก่อตั้งขึ้นในปี 1986 โดยมีจุดประสงค์เพื่อรักษาและส่งเสริมศิลปะการทำ Sabrage ทุกวันนี้มีสมาชิกอยู่ทั่วโลกจำนวนกว่า 30,000 คน โดยในแต่ละปีประเทศต่างๆ ก็จะมีการจัดงานศิลปะชั้นสูงนี้เพื่อสร้างความเพลิดเพลินในการดื่มแชมเปญ และรำลึกถึงประวัติศาสตร์อันน่าทึ่งของการเฉลิมฉลองสไตล์นโปเลียน ที่ยังคงสืบทอดมาจนถึงทุกวันนี้