Van Houten (แวน ฮูเต็น)
เรื่องราวของช็อกโกแลต Van Houten (แวน ฮูเต็น) เริ่มต้นขึ้นในช่วงต้นศตวรรษที่ 19 ท่ามกลางบรรยากาศที่มีชีวิตชีวาของเมืองอัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์ ที่นี่ในปี 1815 Coenraad Van Houten (คอนราด แวน ฮูเต็น) นักเคมีและนักทำช็อกโกแลตชาวดัตช์ ได้ค้นพบวิธีการบดเมล็ด Cacao (คาเคา) ให้กลายเป็นผงโกโก้ที่เรารู้จักในปัจจุบัน วันนี้ Rimping Supermarket จะพาคุณไปเจาะลึกเรื่องราวของแบรนด์โกโก้ผู้บุกเบิกนี้กันค่ะ
ต้นกำเนิดช็อกโกแลต : จากของล้ำค่าสู่เครื่องดื่มศักดิ์สิทธิ์ (กว่า 5,300 ปีก่อน)
ช็อกโกแลตเป็นผลผลิตที่ได้มาจากผลของต้นโกโก้เรียกว่า Cacao (คาเคา) มีถิ่นกำเนิดในอเมริกากลางและอเมริกาใต้ โดยนักโบราณคดีได้ค้นพบร่องรอยที่เก่าแก่ที่สุดของเมล็ดคาเคาในเครื่องปั้นดินเผาที่ใช้ในวัฒนธรรม Mayo-Chinchipe เมื่อ 5,300 ปีก่อน การค้นพบในครั้งนี้ทำให้เห็นว่าช็อกโกแลตนั้นแทรกซึมอยู่ในวัฒนธรรมของชาวพื้นเมืองมาเป็นเวลานานกว่าหลายพันปี
ในอดีตช็อกโกแลตถือเป็นของมีค่าที่สงวนไว้ให้สำหรับชนชั้นสูงเท่านั้น ซึ่งชาวแอซเท็กเคยใช้เมล็ดคาเคาเป็นสกุลเงินในการซื้ออาหารและสินค้าอื่นๆ (ชาวแอซเท็กสามารถซื้อไก่งวง หรือกระต่ายหนึ่งตัวได้ในราคา 100 เมล็ด)
นอกจากนี้ พวกเขายังเชื่อว่าช็อกโกแลตเป็นสารกระตุ้นพลังงานและเป็นยาบำรุงกำลัง ด้วยคุณสมบัติบางประการที่ทำให้ร่างกายรู้สึกสดชื่น จึงนิยมนำมาทำเป็นเครื่องดื่มร้อน โดยนำเมล็ดคาเคามาบดผสมกับน้ำ ฝักวานิลลา พริก และเครื่องเทศ ขณะเดียวกันชาวมายันเชื่อว่าช็อกโกแลตเป็นของขวัญจากพระเจ้า พวกเขาจึงใช้ช็อกโกแลตเป็นส่วนหนึ่งในพิธีกรรมทางศาสนา
ในช่วงปี 1500 ช็อกโกแลตเดินทางมาถึงยุโรป ซึ่งได้รับการแนะนำให้รู้จักครั้งแรกในประเทศสเปน ก่อนจะเริ่มแพร่กระจายไปยังประเทศอื่นๆ ในยุโรป เช่น อิตาลี และฝรั่งเศส โดยขณะนั้นช็อกโกแลตยังคงถูกสงวนไว้สำหรับชนชั้นสูงในยุโรป
การปฏิวัติวงการช็อกโกแลต: Dutch Process และโกโก้ราคาประหยัด (ค.ศ. 1815)
จนกระทั่งในปี 1815 Coenraad Van Houten ได้คิดค้น เครื่องอัดโกโก้แบบไฮดรอลิก ขึ้นมา ซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่เปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมช็อกโกแลตไปโดยสิ้นเชิง นวัตกรรมของเขาสามารถสกัดเนยโกโก้จากเมล็ดคาเคาคั่ว ให้กลายเป็นผงโกโก้ได้ เรียกว่า Dutch Process Chocolate
อย่างไรก็ตาม นอกจากเครื่องอัดโกโก้แล้ว Coenraad Van Houten ยังค้นพบกระบวนการ Dutch Processing ซึ่งเป็นการบำบัดโกโก้ด้วยเกลืออัลคาไลน์ เพื่อลดความเป็นกรด ช่วยให้ผงโกโก้สามารถละลายน้ำได้ง่ายขึ้น เพิ่มรสชาติ และทำให้มีสีเข้มขึ้น แตกต่างจากผงโกโก้ธรรมชาติที่จะมีเนื้อสัมผัส ความเปรี้ยว และค่าความเป็นกรดสูงกว่า
Coenraad Van Houten จดสิทธิบัตรเครื่องอัดโกโก้ของเขาในปี 1828 และเริ่มผลิตโกโก้จำหน่าย สิ่งนี้ส่งผลทำให้โลกของช็อกโกแลตเปลี่ยนไปในชั่วพริบตา ช็อกโกแลตสามารถเข้าถึงได้ง่ายขึ้นสำหรับกลุ่มคนทั่วไป เพราะมีราคาถูกลง และมีรสชาติดีขึ้น
หลังจากที่สิทธิบัตรหมดอายุในปี 1838 จึงเริ่มมีเจ้าของธุรกิจและผู้ผลิตรายอื่นๆ สานต่อความสำเร็จของเขา โดยทดลองทำผลิตภัณฑ์ช็อกโกแลตใหม่ๆ อย่างในปี 1847 ผู้ผลิตช็อกโกแลตชาวอังกฤษ JS Fry & Sons ได้ผลิตช็อกโกแลตแท่งขึ้นเป็นครั้งแรก ต่อมามีการพัฒนาในสวิตเซอร์แลนด์ โดย Daniel Peter ได้ทำช็อกโกแลตนมในปี 1875 หรือ Rodolphe Lindt ที่คิดค้นวิธีที่ทำให้ช็อกโกแลตนมกลมกล่อมมากขึ้น ด้วยกระบวนการกวนเนื้อช็อกโกแลต หรือ คอนชิ่ง (Conching) ในปี 1879
Van Houten สู่แบรนด์โกโก้ยอดนิยมระดับโลก (ค.ศ. 1865 - ปัจจุบัน)
ในปี 1865 ภายใต้การบริหารรุ่นที่ 2 Van Houten เริ่มนำผงโกโก้มาบรรจุลงในกระป๋อง เพื่อให้สะดวกต่อการขนส่ง ซึ่งแบรนด์ส่งออกช็อกโกแลตไปยังอังกฤษ ฝรั่งเศส และเยอรมนี สิ่งนี้ทำให้บริษัทมียอดขายถล่มทลาย จนกลายเป็นแบรนด์โกโก้ยอดนิยมที่ถูกยกย่องว่าเป็น โกโก้แห่งยุคสมัย
ในปี 1889 Van Houten เริ่มส่งออกผลิตภัณฑ์ไปยังสหรัฐอเมริกา ซึ่งในสหรัฐอเมริกามิลตัน เฮอร์ชีย์ (Milton Hershey) เป็นผู้บุกเบิกการผลิตช็อกโกแลตนมหลังจากขายบริษัทคาราเมลของเขาในราคา 1 ล้านเหรียญสหรัฐ และผลิตช็อกโกแลตนมแท่งแรกในปี 1900
ในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 Van Houten ได้ขยายขอบเขตออกไปสู่ระดับสากล ชื่อเสียงของแบรนด์ในด้านความเป็นเลิศเริ่มแพร่กระจายออกไป บริษัทเปิดโรงงานและสำนักงานใหม่ เพื่อตอบสนองความต้องการผลิตภัณฑ์ช็อกโกแลตที่เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ บริษัทยังขยายสายผลิตภัณฑ์ให้ครอบคลุมมากขึ้นทั้งช็อกโกแลตแท่ง ลูกอม และผลิตภัณฑ์จากโกโก้ที่หลากหลาย
ในปี 1998 Van Houten ได้รับการเปลี่ยนแปลงหลายอย่าง รวมถึงการเปลี่ยนแปลงความเป็นเจ้าของและการปรับเปลี่ยนเชิงกลยุทธ์ ซึ่งปัจจุบัน Van Houten อยู่ภายใต้การดูแลของ Barry Callebaut ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ผลิตโกโก้และช็อกโกแลตรายใหญ่ที่สุดของโลก