Calvados (กาลวาโดส)
Calvados (กาลวาโดส) หรือที่ชาวท้องถิ่นเรียกสั้นๆ ว่า Calva เป็นบรั่นดีแอปเปิ้ลชั้นเลิศจากประเทศฝรั่งเศส ผลิตจากไซเดอร์ (น้ำแอปเปิ้ลหมัก) ที่ทำจากแอปเปิ้ลสายพันธุ์พิเศษ โดยมีกฎหมายคุ้มครองแหล่งผลิต Appellation d'Origine Contrôlée (AOC) กำหนดให้ผลิตได้เฉพาะในแคว้นนอร์มังดีเท่านั้น วันนี้ Rimping Supermarket จะพาคุณไปรู้จักกับบรั่นดีแอปเปิ้ลที่มีเรื่องราวทางประวัติศาสตร์อันยาวนานนี้กันค่ะ
ต้นกำเนิดและยุคบุกเบิก (ศตวรรษที่ 16 - 17)
ต้นกำเนิดของ Calvados มีประวัติย้อนกลับไปใน ศตวรรษที่ 16 โดย Gilles de Gouberville ลอร์ดชาวนอร์มันได้เขียนบันทึกเกี่ยวกับการกลั่นแอปเปิ้ลไซเดอร์เพื่อทำ Eau-De-Vie (บรั่นดีผลไม้) เอาไว้ในบันทึกของเขาในปี ค.ศ. 1553 สิ่งนี้จึงเป็นแนวทางสำหรับการผลิต Calvados ในยุคต่อมา
ในช่วงยุคกลาง แคว้นนอร์มังดีเริ่มมีชื่อเสียงด้านการเพาะปลูกแอปเปิ้ล จนนำไปสู่การพัฒนาพันธุ์แอปเปิ้ลที่หลากหลายสำหรับผลิตไซเดอร์โดยเฉพาะ และเมื่อถึง ศตวรรษที่ 17 การกลั่นไซเดอร์เพื่อทำเป็น Calvados (ในช่วงเวลานี้จะถูกเรียกว่า Eau-de-vie du Calvados) ก็เริ่มแพร่หลายมากขึ้น ผู้ผลิตในท้องถิ่นเริ่มปรับปรุงเทคนิคการกลั่นตามสูตรของตัวเอง จนนำไปสู่การก่อตั้งโรงกลั่นขนาดเล็กขึ้นมาหลายแห่ง
ในช่วงเวลานี้ Calvados เป็นเครื่องดื่มยอดนิยมของชนชั้นแรงงานในนอร์มังดี นิยมเติมลงในกาแฟ ดื่มในตอนเช้าก่อนไปทำงาน ซึ่งวิธีการดื่มก็คือต้องเท Calvados ลงในถ้วยกาแฟประมาณ 1 ออนซ์ จากนั้นเติมกาแฟร้อนลงไปคนให้เข้ากัน และดื่มช้าๆ โดยการดื่มลักษณะนี้ต่อมากลายเป็นประเพณีที่เรียกว่า Café Calva
จุดเปลี่ยนครั้งสำคัญ: วิกฤต Phylloxera และการเติบโต (ศตวรรษที่ 19)
ในช่วงแรกๆ Calvados ยังคงเป็นเครื่องดื่มที่ได้รับความนิยมในนอร์มังดีเท่านั้น แต่อย่างไรก็ตามใน ศตวรรษที่ 19 ถือเป็นจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญของอุตสาหกรรมการผลิต Calvados เนื่องจากไร่องุ่นของฝรั่งเศสถูกทำลายโดยศัตรูพืชที่เรียกว่า Phylloxera (ฟิลลอกเซรา) สิ่งนี้ส่งผลกระทบต่อไร่องุ่นแทบจะทั้งหมดในฝรั่งเศส ทำให้การผลิตในไวน์ รวมถึงบรั่นดี และคอนยัคที่ใช้องุ่นในการผลิตได้รับผลกระทบอย่างกว้างขวาง
เหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดนี้ถือเป็นโอกาสทองสำหรับ Calvados เนื่องจากการผลิตบรั่นดี และคอนยัคต้องหยุดชะงักเป็นเวลานานหลายปี ดังนั้นผู้บริโภคจึงหันมาใช้บรั่นดีแอปเปิ้ลเป็นทางเลือกทดแทน สิ่งนี้จึงทำให้ Calvados ได้รับความนิยมอย่างกว้างขวางนอกขอบเขตของนอร์มังดี และในช่วงเดียวกันนี้ก็มีโรงกลั่นเกิดขึ้นมากกว่า 100,000 แห่ง ในนอร์มังดี
กฎหมายคุ้มครองและกระบวนการผลิต (ค.ศ. 1942 - ปัจจุบัน)
ในปี 1942 รัฐบาลฝรั่งเศสได้ออกกฎหมาย Appellation d'Origine Contrôlée (AOC) ขึ้นมาเพื่อรับรองคุณภาพสินค้าเกษตร และอาหารของฝรั่งเศส ซึ่ง Calvados ก็ได้รับการรับรองนี้ด้วย โดยกำหนดเอาไว้ว่า Calvados จะต้องผลิตโดยใช้วิธีการดั้งเดิมในนอร์มังดีเท่านั้นถึงจะเรียกว่า Calvados ได้
การผลิต Calvados เป็นกระบวนการที่พิถีพิถัน เริ่มต้นด้วยการคัดเลือกแอปเปิ้ลอย่างระมัดระวัง ซึ่งมักจะมาจากสายพันธุ์ที่แตกต่างกันมากกว่า 200 สายพันธุ์ โดยแบ่งออกเป็น 4 กลุ่ม ได้แก่ หวาน หวานอมขม ขม และเปรี้ยว
นอกจากนี้การผลิตยังแบ่งออกเป็น 3 ประเภทอีกด้วย ได้แก่
- Calvados AOC: เป็นประเภทที่ได้รับการควบคุมคุณภาพตามมาตรฐาน AOC ซึ่งมีกฎระเบียบที่เข้มงวดเกี่ยวกับแหล่งผลิต พันธุ์แอปเปิ้ล วิธีการผลิต และระยะเวลาการบ่ม ส่วนใหญ่จะผลิตในนอร์มังดีตอนล่าง และต้องใช้แอปเปิ้ลอย่างน้อย 70% จากรายชื่อพันธุ์ที่ได้รับอนุญาต บ่มในถังไม้โอ๊กเป็นเวลาอย่างน้อย 2 ปี
- Calvados Pays d'Auge: ต้องผลิตภายในพื้นที่ Pays d'Auge ภูมิภาคทางตะวันออกของนอร์มังดี ใช้แอปเปิ้ลอย่างน้อย 80% จากรายชื่อพันธุ์ที่ได้รับอนุญาต ไซเดอร์ต้องใช้เวลาในการหมักอย่างน้อย 6 สัปดาห์ และผ่านการกลั่นสองครั้งในหม้ออะเลมบิก จากนั้นจะต้องบ่มในถังไม้โอ๊กเป็นเวลาอย่างน้อย 2 ปี
- Calvados Domestique: เป็นประเภทที่ไม่ได้มีการควบคุมเข้มงวดเหมือนกับ Calvados AOC และ Pays d'Auge สามารถผลิตโดยใช้แอปเปิ้ลสายพันธุ์ใดก็ได้ รวมถึงวิธีการผลิตก็ไม่ได้เข้มงวด อีกทั้งยังไม่จำเป็นต้องบ่มในถังไม้โอ๊คตามเวลาที่กำหนดอีกด้วย ดังนั้น Calvados ประเภทนี้จึงมีราคาถูกกว่าประเภทอื่นๆ นั่นเอง
นอกจาก 3 ประเภทหลักนี้แล้ว Calvados ยังสามารถจำแนกตาม ระยะเวลาการบ่ม ได้อีกด้วย คือ
- Fine, VS, Very Special, Three Stars หรือ Three Apples: บ่มเป็นเวลาอย่างน้อย 2 ปี
- Reserve หรือ Old: บ่มเป็นเวลาอย่างน้อย 3 ปี
- V.O., VSOP หรือ Vieille Réserve: บ่มเป็นเวลาอย่างน้อย 4 ปี
- Hors dâge, XO, Très Vieille Réserve, Très Vieux, Extra หรือ Napoleon: บ่มเป็นเวลาอย่างน้อย 6 ปี
ปัจจุบัน Calvados ได้รับการยอมรับจากทั่วโลก สามารถดื่มได้หลากหลายรูปแบบ เช่น ดื่มเพียวๆ เป็นเครื่องดื่มช่วยย่อย, ดื่มผสมกับกาแฟในตอนเช้า และใช้เป็นผสมในค็อกเทล เช่น French 75 และ Calvados Old Fashioned