Ricola (ริโคล่า)
ท่ามกลางความเงียบสงบบนเทือกเขาในสวิตเซอร์แลนด์ Emil Richterich (เอมิล ริกเทอริช) เภสัชกรชาวสวิสกำลังมุ่งมั่นค้นคว้าสูตรยาแก้ไอจากสมุนไพร 13 ชนิด ด้วยแรงบันดาลใจที่เกิดจากความหลงใหลในธรรมชาติ จนในที่สุดเขาก็ค้นพบสูตรลูกอมสมุนไพร Ricola (ริโคล่า) ที่เปี่ยมไปด้วยสรรพคุณที่หลากหลาย วันนี้ Rimping Supermarket จะพาคุณไปรู้จักกับลูกอมสมุนไพรระดับโลกนี้กันค่ะ
จุดเริ่มต้นจาก Laufen: ลูกอมสมุนไพร 13 ชนิด (ค.ศ. 1930 - 1940)
เรื่องราวของ Ricola เริ่มต้นขึ้นที่เมือง Laufen ที่ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของสวิตเซอร์แลนด์ ในปี 1930 เล่ากันว่าคุณ Richterich ได้ทดลองทำลูกอมสมุนไพร เพื่อช่วยบรรเทาอาการไอ และอาการเจ็บคอ โดยศึกษาจากสมุนไพร 13 ชนิด มีตั้งแต่ดอก เอลเดอร์ฟลาวเวอร์ (Elderflower) เปปเปอร์มินต์ (Peppermint) และอื่นๆ อีกมากมายที่มีสรรพคุณช่วยให้ความชุ่มชื่น บรรเทาอาการไอ และอาการเจ็บคอ
คุณ Richterich ศึกษาคุณสมบัติของสมุนไพรเหล่านี้อย่างพิถีพิถันมาเป็นเวลากว่าหนึ่งทศวรรษ จนในปี 1940 เขาก็ประสบความสำเร็จในการพัฒนาสูตรลูกอมสมุนไพร จากนั้นก็นำมาวางขายที่หน้าร้านของเขาในชื่อ Swiss Herb Candy แต่ทว่ายังขายได้ไม่ดีนักเพราะยังไม่มีใครรู้จัก เขาจึงปั่นจักรยานไปขายตามหมู่บ้านต่างๆ ซึ่งเขาทำแบบนี้อยู่บ่อยครั้ง จนในที่สุดลูกอมสมุนไพรของเขาก็กลายเป็นที่รู้จักไปทั่วเมือง Laufen
จาก Richterich & Co. สู่ Ricola และการขยายตัว (ค.ศ. 1948 - 1962)
หลังจากนั้นไม่นานเขาก็ก่อตั้งบริษัทอย่างเป็นทางการภายใต้ชื่อ Richterich & Co. Laufen รวมถึงมีการลงทุนกับอุปกรณ์การผลิตที่ทันสมัย เพื่อมาตรฐานด้านคุณภาพที่ดีที่สุด ด้วยเหตุนี้เขาจึงสามารถผลิตลูกอมสมุนไพรที่มีคุณภาพได้เป็นจำนวนมาก
ต่อมาในปี 1948 บริษัทก็เปลี่ยนชื่อมาเป็น Ricola เนื่องจากมีผู้ผลิตลูกอมอีกรายที่ใช้ชื่อ Richterich เหมือนกัน จนทำให้ลูกค้าเกิดความสับสน ซึ่งชื่อ Ricola นั้นมาจากการนำคำนำหน้าชื่อบริษัทเดิมมารวมกันนั่นก็คือคำว่า Ri - Co - La ที่มาจาก Richterich & Co. Laufen นั่นเอง
เมื่อเวลาผ่านไปความนิยมของลูกอม Ricola ก็แพร่กระจายไปทั่วประเทศสวิตเซอร์แลนด์ คุณ Richterich จึงขยายฐานการผลิต โดยสร้างโรงงานแห่งแรกขึ้นมาในปี 1950 ซึ่งในช่วงเวลานี้เองที่ลูกชายของเขา Hans Peter (ฮันส์ ปีเตอร์) ได้เข้ามามีส่วนร่วมในธุรกิจ โดยแตกไลน์สินค้าใหม่เป็นชาสมุนไพรที่ใช้สูตรเดียวกับลูกอม เนื่องจากเขาเห็นว่าลูกค้านำลูกอมไปละลายในน้ำร้อน และใช้ดื่มเป็นชา
หลังจากคุณ Hans Peter เข้ามารับช่วงต่อกิจการอย่างเต็มตัว เขาก็เริ่มบุกเบิกตลาดต่างประเทศอย่างจริงจัง ซึ่งเดิมที Ricola มีเป้าหมายเพียงตลาดในประเทศเท่านั้น แต่ด้วยแนวคิดอันแน่วแน่ของคุณ Peter ลูกอมสมุนไพร Ricola จึงกลายเป็นบริษัทลูกอมสวิสรายแรกๆ ที่ส่งออกสินค้าไปขายยังต่างประเทศ โดยประเทศแรกที่ส่งออกไปก็คือ เยอรมนี
Ricola ส่งออกผลิตภัณฑ์ไปยังเยอรมนีในปี 1962 แต่ทว่าในตอนแรกบริษัทคู่ค้าผู้นำเข้ากลับไม่สนใจ เพราะบอกว่าแพ็กเกจจิ้งของ Ricola นั้นเหมือนกับถุงบรรจุเมล็ดพันธุ์พืช และคงจะขายไม่ได้ ซึ่งท้ายที่สุดแม้จะมีความกังวลใจ แต่บริษัทนำเข้าก็ตัดสินใจสั่งซื้อลูกอม Ricola ไปทดลองขายจำนวน 50,000 ถุง ซึ่งผลปรากฏว่าภายในหนึ่งปีแรก Ricola กลับมียอดขายสูงถึง 1 ล้านถุงเลยทีเดียว
การเติบโตระดับโลกและการอนุรักษ์ธรรมชาติ (ค.ศ. 1980 - ปัจจุบัน)
ในช่วงปี 1980 สมุนไพรใน Laufen เริ่มมีไม่เพียงพอต่อการผลิตอีกต่อไป Ricola จึงเริ่มต้นทำงานร่วมกับเกษตรกรชาวสวิสด้านการเพาะปลูกสมุนไพรอย่างเป็นระบบตามมาตรฐาน Bio Suisse (องค์กรหลักด้านเกษตรอินทรีย์ในสวิตเซอร์แลนด์) พร้อมกับมุ่งมั่นที่จะรักษาสภาพแวดล้อมซึ่งเป็นแหล่งที่มาของวัตถุดิบต่างๆ เช่น แนวปฏิบัติด้านการเกษตรที่ยั่งยืน การผลิตที่ปราศจากคาร์บอน และการอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพ
ในปี 1993 โฆษณา Ricola ตัวแรกเริ่มออกอากาศทางทีวี และทางวิทยุในสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งโฆษณาดังกล่าวสร้างการรับรู้ให้กับ Ricola ได้เป็นอย่างมากเป็นที่น่าจดจำมาจากการเป่าแตรในประโยคที่ว่า Riiiicolaaaaa จนในที่สุด Ricola ก็ตัดสินใจขยายตลาดไปยังประเทศอื่นๆ ด้วยเช่นกัน ซึ่งปัจจุบันส่งออกไปกว่า 45 ประเทศทั่วโลก ทั้งในยุโรป เอเชีย และอเมริกา
ตลอดหลายปีที่ผ่านมาบริษัท Ricola ยังคงมีการต่อยอดผลิตภัณฑ์ให้มีความหลากหลายมากขึ้น เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า แต่ยังคงพื้นฐานของสมุนไพรไว้ดังเดิม เช่น ลูกอมแบบไม่มีน้ำตาล ลูกอมแบบเคี้ยวได้ หรือลูกอมสมุนไพรรสชาติต่างๆ พร้อมพัฒนาแพ็กเกจจิ้งมาเป็นรูปแบบกล่องขนาดเล็กที่พกพาสะดวก
ปัจจุบัน Ricola อยู่ภายใต้การดูแลของคุณ Felix Richterich (เฟลิกซ์ ริกเทอริช) ซึ่งเป็นทายาทรุ่นที่ 3 ของครอบครัวที่เข้ามารับช่วงต่อกิจการจากคุณ Peter ในปี 1991