แชร์

Agave (อะกาเว)

Agave (อะกาเว) เป็นพืชพื้นเมืองที่เติบโตในพื้นที่แห้งแล้งของเม็กซิโก มีลักษณะเป็นไม้อวบน้ำ ใบหนา ปลายแหลม มีหนาม เรียงซ้อนกันเป็นพุ่ม คล้ายกับต้นว่านหางจระเข้ บ้านเราจะนิยมปลูกเป็นไม้ประดับ แต่ในแถบเม็กซิโกมักจะปลูกไว้สำหรับทำ ไซรัป เตกิลา และเมซคัล

Agave: พืชศักดิ์สิทธิ์ที่มีประวัติยาวนาน (9,000 ปีก่อน)

ต้นกำเนิดของ Agave มีประวัติยาวนานนับพันปี โดยมีหลักฐานการเพาะปลูกมาตั้งแต่ 9,000 ปีก่อน โดยชนพื้นเมืองของเม็กซิโก เช่น ชาวแอซเท็ก (Aztec) และชาวมายัน (Mayan) ซึ่งคนพื้นเมืองเหล่านี้ยกย่องให้ Agave เป็นพืชศักดิ์สิทธิ์ เนื่องจาก Agave เป็นทรัพยากรที่สำคัญสำหรับการยังชีพในสภาพแวดล้อมที่แห้งแล้งรุนแรง

Agave เป็นคำภาษากรีกที่มาจากคำว่า Agavos (อะกาโวส) แปลว่า มีชื่อเสียง เนื่องจาก Agave มีบทบาททางศาสนา นักประวัติศาสตร์กล่าวว่าในตำนานกรีก Agave เป็นตัวแทนของ เทพีแห่งความปรารถนา ที่นำพาความอุดมสมบูรณ์มาสู่โลก ด้วยเหตุนี้ชาวพื้นเมืองของเม็กซิโกจึงบูชาต้น Agave

จากเครื่องดื่มโบราณ Pulque สู่ Agave Syrup (1,000 ปีก่อนคริสต์ศักราช)

ถึงแม้ต้น Agave จะมีประวัติศาสตร์มาอย่างยาวนาน แต่การนำ Agave มาทำเครื่องดื่มเพิ่งจะเริ่มต้นขึ้นเมื่อ 1,000 ปีก่อนคริสต์ศักราช โดย Pulque (พูลเก้) เป็นเครื่องดื่มมึนเมาชนิดแรกที่ผลิตจากต้น Agave ซึ่งเป็นเครื่องดื่มหมักที่มีเนื้อสัมผัสคล้ายน้ำนม

การใช้ Agave เป็นสารให้ความหวาน อารยธรรมโบราณค้นพบว่าน้ำนมหรือ Aguamiel (อากัวมีเอล) ที่อยู่ในใจกลางของต้น Agave สามารถสกัดให้เป็นน้ำเชื่อมธรรมชาติได้ เรียกกันว่า Agave Syrup (อะกาเวไซรัป) หรือ Agave Nectar (อะกาเวเนกทาร์) ซึ่งในสมัยนั้นถือเป็นสินค้าที่มีมูลค่ามาก สามารถใช้ทดแทนสารให้ความหวานแบบดั้งเดิมได้ โดยมีค่าดัชนีน้ำตาลในเลือดต่ำ และสามารถนำไปประกอบอาหารได้หลากหลาย

การถือกำเนิดของ Tequila: เทคนิคการกลั่นจากสเปน (ศตวรรษที่ 16)

เมื่อผู้ตั้งถิ่นฐานชาวสเปนเดินทางมาถึงเม็กซิโกใน ศตวรรษที่ 16 พวกเขาก็เริ่มมองเห็นประโยชน์จากต้น Agave และเริ่มนำเครื่องดื่ม Pulque มาปรับปรุงทำเป็น Tequila (เตกีลา) โดยใช้เทคนิคการกลั่นที่นำติดตัวจากยุโรปมาใช้ ซึ่งการผลิต Tequila นี้จะต้องกลั่นจากน้ำหมักของต้น Agave สายพันธุ์ Blue Agave, Blue Weber Agave, Agave Tequilana Weber Varietà Azul เท่านั้น

เนื่องจากชาวสเปนนำ Pulque ไปกลั่นที่ เมืองเตกีลา (Tequila) จังหวัดกัวดาลาฆารา (Guadalajara) พวกเขาจึงตั้งชื่อเครื่องดื่มชนิดนี้ว่า Tequila ตามชื่อเมืองต้นกำเนิดนั่นเอง ตลอดหลายศตวรรษที่ผ่านมา การผลิต Tequila มีการพัฒนา โดยมีความก้าวหน้าในเทคนิคการกลั่นและวิธีปฏิบัติในการเพาะปลูก จึงทำให้มีคุณภาพและรสชาติดีขึ้น

ปัจจุบัน Tequila ได้รับการยกย่องว่าเป็นสัญลักษณ์สำคัญของวัฒนธรรมเม็กซิกันที่ได้รับการยอมรับทั่วโลก และได้รับการจดทะเบียนคุ้มครอง (Protected Designation of Origin) จาก สหภาพยุโรป (European Union) มาตั้งแต่ปี 1997

Mezcal: อีกหนึ่งความหลากหลายจาก Agave

แม้ว่า Tequila จะครองตำแหน่งสูงสุดในฐานะเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่ทำจาก Agave ที่มีชื่อเสียงที่สุดของเม็กซิโก แต่ เมซคัล (Mezcal) ก็ถือเป็นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อีกหนึ่งชนิดที่ผลิตจาก Agave ที่ได้รับความนิยมเช่นกัน แต่ Mezcal จะผลิตจาก Agave หลากหลายสายพันธุ์ โดยแต่ละสายพันธุ์จะมีลักษณะเฉพาะของตัวเอง

อันที่จริงแล้ว Tequila ก็ถูกนับว่าอยู่ในกลุ่มของ Mezcal เช่นกัน แต่มี Mezcal เพียงไม่กี่ชนิดเท่านั้นที่สามารถเรียกว่า Tequila ได้ ซึ่งสาเหตุที่เป็นเช่นนี้นั่นก็เพราะว่า Tequila และ Mezcal แตกต่างกันที่กระบวนการผลิต โดย Tequila จะต้องใช้ส่วนผสมของ Blue Agave อย่างน้อย 51% ขึ้นไป ทั้งยังต้องควบคุมการผลิต ตามพื้นที่ที่กำหนดเอาไว้อีกด้วย

ในขณะที่ Mezcal จะใช้ Agave 100% ในการผลิต โดยสามารถใช้ Agave สายพันธุ์ไหนก็ได้รวมถึง Blue Agave ที่ใช้ทำ Tequila โดยปัจจุบัน Agave ที่ใช้ในการผลิต Mezcal จะมีทั้งหมด 12 สายพันธุ์ ส่วนมากนิยมใช้เป็นพันธุ์ Espadin (เอสปาดิน)

Tags :

บทความที่เกี่ยวข้อง
Ziplock Bag (ถุงซิปล็อค)
ย้อนรอยประวัติศาสตร์ความเป็นมาของ ถุงซิปล็อค (Ziplock Bag)
Digestivo (ดีเจสทิโว่)
ย้อนรอยประวัติศาสตร์ Digestivo (ดีเจสทิโว่) วัฒนธรรมการดื่มหลังทานอาหารเพื่อช่วยในการย่อยอาหาร
Aperitivo (อะเพริทิโว่)
ย้อนรอยประวัติศาสตร์ Aperitivo (อะเพริทิโว่) วัฒนธรรมการดื่มเรียกน้ำย่อยก่อนอาหารค่ำของชาวอิตาลี
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ