New Zealand Persimmon (ลูกพลับนิวซีแลนด์)
เมื่อพูดถึง ลูกพลับ ภาพจำที่คนส่วนใหญ่นึกถึงคือผลไม้สีส้มอมเหลือง ขนาดกลาง และเป็นผลไม้ที่มีความเป็นเอเชียสูง เนื่องจากมีการเพาะปลูกมากที่สุดในประเทศจีน ญี่ปุ่น และเกาหลี แต่ก็ยังมีอีกประเทศหนึ่ง ที่มีชื่อเสียงที่น่าสนใจในการส่งออกลูกพลับ นั่นคือ ประเทศนิวซีแลนด์
พลับหวาน vs. พลับฝาด: ความแตกต่างที่ควรรู้
ลูกพลับนั้นมีอยู่มากมายหลายสายพันธุ์ สามารถแบ่งออกเป็นสองประเภทใหญ่ ได้แก่ พลับหวาน และ พลับฝาด ซึ่งพลับฝาด เช่นสายพันธุ์ฮาชิยะ เป็นลูกพลับที่มักมีรูปร่างที่สูงยาว และมีสาร Tannin สูง สารนี้มีหน้าที่ปกป้องพืชผลจากแมลงและปรสิต แม้ว่าจะไม่ใช่สารอันตรายสำหรับมนุษย์ แต่ทำให้ลูกพลับมีรสขมฝาด หากบริโภคมากเกินไปอาจทำให้เกิดการท้องอืดได้ ดังนั้น ลูกพลับชนิดนี้จึงจำเป็นต้องรอหรือบ่มให้สุกเต็มที่ก่อน เพื่อให้ tannin หมดไป จึงจะสามารถรับประทานได้ ซึ่งรสสัมผัสของลูกพลับที่สุกก็จะมีความนิ่ม และมีรสชาติหวานมาก
ลูกพลับที่ขึ้นชื่อของนิวซีแลนด์จะจัดอยู่ในประเภทพลับหวาน โดยสายพันธุ์ที่นิยมปลูกมากในนิวซีแลนด์คือสายพันธุ์ Fuyu ที่พัฒนาโดยประเทศญี่ปุ่น จุดที่สำคัญของพลับหวานก็คือมีสาร tannin ในปริมาณน้อย และไม่มีรสชาติขมฝาด จึงทำให้สามารถรับประทานได้ทั้งเปลือกตั้งแต่ยังไม่สุก และสามารถเพลิดเพลินกับรสชาติหอมหวานพร้อมเนื้อสัมผัสที่ยังมีความกรอบคล้ายแอปเปิ้ลนั่นเอง ซึ่งลูกพลับหวานยังมีรูปร่างเป็นทรงกลมกว่าพลับฝาดอีกด้วย ซึ่งลูกพลับจากนิวซีแลนด์จะมีขนาดกลางไปจนถึงใหญ่ บางครั้งมีสีส้มสด และอาจหนักได้ถึงลูกละ 220 กรัม
ต้นกำเนิดและการเติบโตในนิวซีแลนด์
ลูกพลับเป็นผลไม้ที่มีต้นกำเนิดจาก ประเทศจีน และแผ่ขยายมายังยุโรปในช่วงต้น ศตวรรษที่ 19 และมีการบันทึกไว้ว่าเริ่มปลูกในนิวซีแลนด์ครั้งแรกราวปี ค.ศ. 1870 แม้ว่าลูกพลับจะเป็นผลไม้จากเอเชีย แต่ก็เติบโตได้ดีในนิวซีแลนด์ เนื่องจากลูกพลับต้องการช่วงเวลาฤดูร้อนที่ยาวนานในการเติบโตและออกผล ซึ่งตรงกับภูมิอากาศของนิวซีแลนด์
เมืองที่มีการเพาะปลูกมากที่สุดได้แก่ Gisborne, Northland, Auckland, Waikato และเขต Bay of Plenty ช่วงเวลาเก็บเกี่ยวลูกพลับจะเป็นช่วงปลายฤดูใบไม้ร่วงในเดือนเมษายนถึงพฤษภาคม และเริ่มส่งออกไปยังประเทศต่างๆ ไปจนถึงเดือนกรกฎาคม ซึ่งประเทศที่มีการส่งออกไปมากที่สุดได้แก่ ออสเตรเลีย สิงคโปร์ เวียดนาม และประเทศไทย
คุณประโยชน์และการนำไปประกอบอาหาร
ลูกพลับนิวซีแลนด์อุดมไปด้วย วิตามินซี สูงถึง 105% ของปริมาณที่ร่างกายต้องการต่อวัน ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้แก่ร่างกาย มีสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยควบคุมความดันโลหิตและปริมาณคอเลสเตอรอล และยังมีวิตามิน A และ B6 พร้อมด้วยแร่ธาตุหลายชนิด ซึ่งล้วนแต่เป็นสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกาย โดยลูกพลับนิวซีแลนด์สามารถจัดเก็บในอุณหภูมิห้องแบบคงความกรอบได้นานถึง 2-3 อาทิตย์
นอกจากการรับประทานสดๆ เพื่อสัมผัสรสชาติอย่างเต็มที่แล้ว ในนิวซีแลนด์ก็มีการทำเมนูอาหารและขนมจากลูกพลับเช่นเดียวกัน การนำไปอบหรือย่างทั้งลูก การอบแห้ง การนำไปทำเป็น Fruit Salad หรือประกอบกับสลัดแซลมอนรมควัน และยังสามารถนำไปรับประทานคู่กับไอศกรีมวานิลลา หรือนำเนื้อลูกพลับไปทำเป็นไอศกรีมเชอร์เบตหรือซอร์เบต์ได้อีกด้วย