Kransekage (ครันเซอกาเกอ)
Kransekage (ครันเซอกาเกอ) หรือที่รู้จักกันในอีกหลายชื่อ เช่น เค้กพวงมาลัย หรือ เค้กหอคอย (เรียกตามรูปทรงของเค้กที่เรียงต่อกันเป็นชั้นๆ) เป็นขนมหวานประจำงานเฉลิมฉลอง โดยเฉพาะ วันขึ้นปีใหม่ ที่ได้รับความนิยมในวัฒนธรรม เดนมาร์ก และ นอร์เวย์ มาหลายศตวรรษ วันนี้ Rimping Supermarket จะพาคุณไปเจาะลึกเรื่องราวของขนมหวานสุดพิเศษนี้กันค่ะ
ต้นกำเนิดและความนิยม
ต้นกำเนิดของ Kransekage มีประวัติย้อนกลับไปใน ศตวรรษที่ 18 ถูกคิดค้นขึ้นมาโดย เชฟทำขนมในราชสำนักเดนมาร์ก ดังนั้นเดิมทีขนมหวานเมนูนี้จึงได้รับความนิยมในกลุ่มคนชั้นสูงเป็นหลัก แต่เมื่อเวลาผ่านไปก็พัฒนามาเป็นขนมหวานประจำ วันขึ้นปีใหม่ ของคนทุกชนชั้น โดยจะนิยมรับประทานกันหลังเที่ยงคืนวันที่ 31 ธันวาคม ไปจนถึงช่วงต้นเดือนมกราคม ซึ่งเป็นช่วงเวลาแห่งการเฉลิมฉลองและการเริ่มต้นใหม่
ลักษณะเด่นและวิธีการทำ
Kransekage เป็นขนมหวานที่ทำมาจาก มาร์ซิพาน (Marzipan) ที่ทำจาก อัลมอนด์บด ไข่ขาว และน้ำตาล ปั้นเป็นวงแหวนเหมือนโดนัทหลากหลายขนาด พออบเสร็จก็จะนำมาวางซ้อนกันเป็นชั้นๆ เรียงจากใหญ่ไปหาเล็กให้เป็นรูปทรงกรวยคล้ายหอคอย โดยใช้ขวดไวน์หรือขวดเหล้า Aquavit (อาควาวิท) เป็นแกนกลาง จากนั้นจะนำท็อปปิ้งต่างๆ จำพวก น้ำตาลไอซิ่ง ครีม และ ขนมแคร็กเกอร์ มาตกแต่งให้สวยงาม ปกตินิยมทำซ้อนกันไม่น้อยกว่า 18 ชั้น แต่ก็สามารถเพิ่มหรือลดจำนวนชั้นลงได้ แล้วแต่ความชอบและความประณีตในการทำ
ความสำคัญเชิงสัญลักษณ์และวัฒนธรรม
นอกเหนือจากรสชาติที่อร่อยแล้ว Kransekage ยังมีความสำคัญเชิงสัญลักษณ์ในประเพณีของชาวเดนมาร์กและนอร์เวย์อีกด้วย โดยเชื่อกันว่า รูปทรงกลมของชั้นขนมเป็นสัญลักษณ์ของความอุดมสมบูรณ์ จึงเป็นตัวเลือกยอดนิยมในวันขึ้นปีใหม่ และงานเฉลิมฉลองอื่นๆ เช่น งานแต่งงาน งานรับปริญญา หรือวันครบรอบต่างๆ
การสร้างสรรค์ Kransekage สะท้อนให้เห็นถึง ความสามัคคีของคนในครอบครัวและชุมชน ทั้งนี้เนื่องจากการทำ Kransekage จะมีประเพณีที่สืบทอดกันมาจากรุ่นสู่รุ่น คล้ายๆ กับการทำอาหารปีใหม่ในภูมิภาคอื่นๆ ที่คนในครอบครัว หรือเพื่อนบ้านจะมาช่วยกันทำขนม แล้วตกแต่งออกมาให้สวยงาม เพื่อรับประทานร่วมกัน เป็นกิจกรรมที่สร้างความผูกพันและความอบอุ่น
วิวัฒนาการและความนิยมระดับโลก
อย่างไรก็ตาม เมื่อเวลาผ่านไป Kransekage ก็ได้รับการพัฒนาให้มีรูปแบบที่ร่วมสมัยมากขึ้น เพื่อตอบสนองรสนิยมและความชอบที่หลากหลาย โดยผสมผสานส่วนผสมใหม่ๆ ลงไป เช่น ผิวส้ม ไส้ช็อกโกแลต หรือท็อปปิ้งอื่นๆ ที่หลากหลาย เพื่อทำให้ขนมหวานนี้มีลักษณะที่น่ารับประทานมากยิ่งขึ้น ปัจจุบัน Kransekage จึงกลายเป็นขนมหวานที่ได้รับความนิยมไปทั่วโลก ไม่ได้จำกัดอยู่เพียงแค่ในกลุ่มประเทศแถบนอร์ดิกอีกต่อไป
