Crystal Ice Plant (ผักเกล็ดหิมะ)
ในช่วงไม่กี่ปีมานี้ ผักเกล็ดหิมะ (Crystal Ice Plant) กำลังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมากในกลุ่มคนรักสุขภาพ ทั้งนี้เนื่องจากผักเกล็ดหิมะนั้นอุดมไปด้วยคุณประโยชน์นานัปการ รวมถึงมีรสชาติและเนื้อสัมผัสที่อร่อยเป็นเอกลักษณ์ จนได้รับการขนานนามให้เป็น อัญมณีแห่งวงการผัก วันนี้ Rimping Supermarket จะพาคุณไปเจาะลึกเรื่องราวของผักมหัศจรรย์ชนิดนี้กันค่ะ
ต้นกำเนิดและความงดงามตามธรรมชาติ
กล่าวกันว่าต้นกำเนิดของ ผักเกล็ดหิมะ มาจากทาง แอฟริกาใต้ แถบทะเลทรายนามิบ, คาบสมุทรไซนาย (อียิปต์) และ ยุโรปตอนใต้ โดยผู้ที่ค้นพบผักเกล็ดหิมะคนแรก กล่าวว่าเขาพบผักเกล็ดหิมะปะปนมากับทราย จึงนำมาเพาะปลูกเพื่อเป็นไม้ประดับ เนื่องจากผักชนิดนี้มีลักษณะสวยงาม คล้ายกับเกล็ดหิมะปกคลุมผิวของผักอยู่ตลอดเวลา แต่ในเวลาต่อมาผักชนิดนี้ก็ถูกนำมารับประทานอย่างกว้างขวางในพื้นที่แถบนั้น เพราะมีงานวิจัยค้นพบประโยชน์นานัปการของผักชนิดนี้
ผักเกล็ดหิมะ มีชื่อทางวิทยาศาสตร์คือ Mesembryanthemum crystallinum L. มีลักษณะเป็นพุ่มเตี้ย ลำต้นอวบน้ำ เนื้อผักค่อนข้างหนา รสชาติออกเค็มนิดๆ แต่เป็นผักที่ไม่มีกลิ่นฉุนเลย สามารถนำมาทำอาหารได้หลากหลายทั้งอาหารไทยและต่างประเทศ นิยมนำมาทานคู่กับพาสต้า ทำเป็นสลัดน้ำมันงา ผักทอดกรอบแบบเทมปุระ หรือทานคู่กับส้มตำแบบสาหร่ายพวงองุ่นก็ได้เช่นกัน
ความลับของ แบลดเดอร์ เซลล์ (Bladder Cell)
นอกจากนี้ ผักเกล็ดหิมะ ยังมีความพิเศษอีกคือ บริเวณใบจะมีเซลล์ชนิดหนึ่งที่เรียกว่า แบลดเดอร์ เซลล์ (Bladder cell) อยู่เป็นจำนวนมาก โดยเซลล์ประเภทนี้จะทำหน้าที่ในการเก็บสะสมอาหาร แร่ธาตุ และน้ำ ซึ่งมีส่วนช่วยทำให้ผักชนิดนี้สามารถทนอยู่ได้ในสภาพอากาศที่แห้งแล้ง และไม่เพียงเท่านี้ แบลดเดอร์ เซลล์ ยังมีส่วนทำให้ใบผักเกล็ดหิมะมีลักษณะเหมือนถูกปกคลุมด้วยเกล็ดน้ำแข็งอีกด้วย จึงเป็นที่มาของชื่ออันเป็นเอกลักษณ์
คุณค่าทางโภชนาการและประโยชน์ต่อสุขภาพ
ในแง่ของคุณค่าทางโภชนาการ ผักเกล็ดหิมะ ถือเป็นพืชอีกหนึ่งชนิดที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูงกว่าผักใบเขียวหลากหลายชนิด เป็นผักที่อุดมไปด้วย:
- แคลเซียมและโพแทสเซียม: ช่วยในเรื่องความแข็งแรงของกระดูก และควบคุมความดันโลหิต
- เบต้าแคโรทีนและวิตามินเอ: บำรุงสายตา
- วิตามินเคและวิตามินซี: เสริมสร้างภูมิคุ้มกันและสุขภาพผิว
- วิตามินบี1, บี2, บี6, บี9: ช่วยในการเผาผลาญพลังงานและระบบประสาท
- สารต้านอนุมูลอิสระหลายชนิด: เช่น ซูเปอร์ออกไซด์ ดิสมิวเทส (Superoxide Dismutase - SOD) ซึ่งช่วยป้องกันผิวหนังจากการเข้าทำลายของรังสียูวีซี (ครีมกันแดดหลายประเภทใช้สารสกัดจากผักชนิดนี้เป็นส่วนประกอบ)
นอกจากนี้ ยังมีฤทธิ์ในการฆ่าเชื้อโรค ป้องกันโรคหัวใจ และต้านเบาหวาน อีกทั้งยังช่วยเร่งการเผาผลาญในร่างกายอีกด้วย ทำให้ผักชนิดนี้เป็นสุดยอดอาหารเพื่อสุขภาพอย่างแท้จริง
การแพร่หลายและความนิยมในปัจจุบัน
ปัจจุบัน ผักเกล็ดหิมะ เริ่มได้รับความนิยมในหลายประเทศ เช่น อินเดีย สหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย และเยอรมนี ในทวีปเอเชียได้รับความนิยมอย่างมากในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งจะเรียกกันว่า บาราฟุ (Barafu, バラフ) ส่วนในประเทศไทยเราก็เพิ่งได้รับความนิยมเมื่อไม่นานมานี้ และเริ่มมีการเพาะปลูกอย่างแพร่หลายมากขึ้น