French Kiss Oyster (เฟรนช์คิส ออยสเตอร์)
ในโลกของอาหารแห่งท้องทะเล French Kiss Oyster ถือเป็นวัตถุดิบล้ำค่าที่เต็มไปด้วยเรื่องราวที่น่าสนใจและรสชาติอันเป็นที่น่าหลงใหล ครั้งหนึ่ง Leon-Paul Fargue นักกวีและนักเขียนบทความชื่อดังชาวฝรั่งเศส ได้กล่าวไว้ว่า การได้ทานหอยนางรมสด ๆ นั้นเหมือนการได้จูบกับท้องทะเล (Like kissing the sea on the lips) ซึ่งคำกล่าวนี้ดูจะเข้ากันได้ดีกับหอยนางรมสายพันธุ์พิเศษที่เรากำลังจะพูดถึง
กำเนิด French Kiss: รสชาติอันเป็นเอกลักษณ์ดุจจุมพิตแห่งมหาสมุทร
French Kiss Oyster เป็นหอยนางรมสายพันธุ์หายากที่ต้องทะนุถนอมใต้ท้องทะเลที่บริสุทธิ์นานกว่า 6 ปี เพื่อบ่มเพาะรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ดุจดั่งจุมพิตแห่งมหาสมุทร โดยเรื่องราวของ French Kiss Oyster นั้นกล่าวกันว่าในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 ผู้เลี้ยงหอยนางรมชาวฝรั่งเศสได้ค้นพบหอยนางรมที่มีลักษณะอวบอ้วนและมีรสชาติเค็มปนหวาน ซึ่งเป็นรสชาติที่ซับซ้อนไม่เหมือนใคร ด้วยความหลงใหลในหอยนางรมชนิดนี้เขาจึงเรียกชื่อว่า French Kiss เพื่อสื่อถึงต้นกำเนิดของ Oyster ในฝรั่งเศส และความรู้สึกอันน่ารื่นรมย์เมื่อยามที่ต่อมรับรสได้สัมผัสกับ French Kiss Oyster นับเป็นชื่อที่สะท้อนทั้งถิ่นกำเนิดและประสบการณ์การลิ้มรสได้อย่างลึกซึ้งและชวนฝัน
หอยนางรมกับตำนานความโรแมนติกและมูลค่าที่เพิ่มขึ้น
เป็นเวลานานกว่าหลายศตวรรษที่เรื่องราวของ Oyster มักจะเชื่อมโยงกับความโรแมนติกและเรื่องราวของความใคร่ จากบันทึกของ จิอาโคโม คาซาโนวา (Giacomo Casanova) ตำนานนักรักผู้โด่งดังในช่วงราว ๆ ปี 1750 - 1760 ตอนหนึ่งได้เขียนไว้ว่าตัวเค้าเคยทาน Oyster มากถึง 50 ตัว เพื่อกระตุ้นอารมณ์รักระหว่างที่อาศัยอยู่ในปารีส ซึ่งเรื่องราวดังกล่าวนี้ถูกเล่าขานต่อจนชายหนุ่มน้อยใหญ่ในยุคนั้นต่างแย่งชิงกันทาน Oyster เพราะเชื่อว่าเป็นอาหารที่มีฤทธิ์เสริมสมรรถภาพท่านชาย นี่จึงอาจเป็นหนึ่งในเหตุผลที่ทำให้ Oyster มีปริมาณไม่เพียงพอต่อความต้องการจนมีมูลค่าสูงขึ้นเรื่อย ๆ และกลายอาหารจานหรูไปในที่สุด ด้วยความต้องการที่เพิ่มขึ้นแต่ปริมาณที่จำกัด
นอกจากตำนานดังกล่าวแล้ว Oyster ยังเป็นสิ่งหาที่จับได้ยาก เพราะกว่า Oyster จะเติบโตและพร้อมให้จับขึ้นมาจากน้ำได้ต้องมีอายุอย่างน้อย 2 ปี ขึ้นไป ซึ่งบางสายพันธุ์ก็อาจจะมากกว่านั้น เช่นเดียวกับขั้นตอนการดูแลหลังจากจับ Oyster ขึ้นมาจากน้ำที่ต้องอาศัยการดูแลเอาใจใส่เป็นพิเศษ เพื่อให้ Oyster ยังคงความสดใหม่และคุณภาพดีเมื่อถึงมือผู้บริโภค ด้วยเหตุนี้เอง Oyster จึงเป็นอาหารที่เข้าถึงได้ยากมากยิ่งขึ้นและมีราคาสูง
การเลี้ยง Oyster ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม: มรดกแห่งท้องทะเลที่ยั่งยืน
ทุกวันนี้มีฟาร์มเลี้ยง Oyster สายพันธุ์ต่าง ๆ อยู่หลายแห่งทั่วโลก แต่ไม่ใช่ว่าใครอยากจะเลี้ยงก็ทำได้เลย เพราะปัจจัยในการเลี้ยง Oyster นั้นไม่เหมือนการทำปศุสัตว์ทั่วไป เนื่องจาก Oyster จะเติบโตขึ้นโดยอาศัยระบบนิเวศที่สะอาดและหาอาหารเองตามธรรมชาติ เราไม่จำเป็นต้องให้อาหาร Oyster ดังนั้นงานหลักของผู้เพาะเลี้ยงคือการสร้างและรักษาสภาพแวดล้อมนั้นให้สะอาดที่สุด โดยไม่เข้าไปรบกวนความเป็นอยู่ของหอย หรือรบกวนระบบนิเวศโดยรอบ เรียกได้ว่าเป็นการทำประมงที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมที่สุด และเป็นอาหารจากธรรมชาติที่แสดงอัตลักษณ์ของผืนน้ำนั้นอย่างแท้จริง สะท้อนถึงความยั่งยืนและความเคารพต่อธรรมชาติในการผลิตอาหาร
French Kiss Oyster (Beau Soleil): ความพิเศษที่ต้องใช้เวลาและความอดทน
French Kiss Oyster หรือที่รู้จักกันในชื่อสายพันธุ์ Beau Soleil (แปลว่าพระอาทิตย์ที่สวยงาม) เป็นหอยนางรมอีกหนึ่งชนิดที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว มีรสชาติที่หวานนุ่มละมุน กลมกล่อมผสานกับรสเค็มของน้ำทะเลนิด ๆ เป็นหอยนางรมที่ทานได้ง่ายและเหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นลิ้มลอง เพราะมีรสชาติที่ไม่จัดจ้านจนเกินไป
ดังที่กล่าวไปแล้วข้างต้นว่า Oyster ทั่วไปจะต้องมีอายุ 2 ปี ขึ้นไปถึงจะพร้อมให้จับมาบริโภคได้ แต่สำหรับ French Kiss Oyster จะมีความพิเศษมากกว่าสายพันธุ์อื่น ๆ เพราะต้องเลี้ยงประมาณ 3-4 ปี ขึ้นไปถึงจะจับขึ้นมาบริโภคได้
แต่อย่างไรก็ตาม การที่จะดึงศักยภาพของรสชาติและขนาดที่ใหญ่ขึ้น เราจะต้องเลี้ยง French Kiss Oyster เป็นเวลานานขึ้นอีกประมาณ 5-6 ปี ภายใต้ธารน้ำแข็งอันกว้างใหญ่ ซึ่งเป็นสภาพแวดล้อมที่บริสุทธิ์และอุดมสมบูรณ์เป็นพิเศษ การเก็บเกี่ยวในแต่ละครั้งจะต้องเผชิญกับความท้าทายในการเจาะแผ่นน้ำแข็งที่ทั้งหนาและเย็นจัด ดังนั้นกว่าจะได้ Oyster สายพันธุ์นี้มาจึงเป็นเรื่องที่ค่อนข้างยากมากเลยทีเดียว เป็นความท้าทายที่ต้องใช้ความอดทน เทคนิคขั้นสูง และความมุ่งมั่นอย่างแท้จริง
การดูแลเอาใจใส่ในระยะยาวและสภาพแวดล้อมที่สมบูรณ์แบบเช่นนี้ สามารถดึงเอาเอกลักษณ์ของ French Kiss Oyster ออกมาได้ดีกว่าเดิม เพิ่มรสชาติที่ซับซ้อนไม่เหมือนใคร เนื้อแน่น อวบอิ่ม สัมผัสกลิ่นสะอาดของน้ำทะเลได้อย่างโดดเด่นมากยิ่งขึ้น หากได้ทานสด ๆ ลิ้มรสน้ำที่อยู่ในเปลือกหอย และกัดเคี้ยวเนื้อแน่น ๆ ค่อย ๆ ให้กลิ่นและรสซึมซาบไปตามต่อมรับรสพร้อมกับความหอมหวานที่อบอวลในปาก การจับคู่กับไวน์ขาวอย่าง Sauvignon Blanc หรือ Muscadet ที่มีรสชาติสดชื่นจะยิ่งช่วยเสริมประสบการณ์การลิ้มรสให้สมบูรณ์แบบ นี่คือที่สุดแห่งสุนทรียภาพดุจดังจุมพิตแห่งมหาสมุทรอย่างแท้จริง