แชร์

Schnitzel (ชนิตเซิล)

ประวัติศาสตร์ของชนิตเซิล (Schnitzel) นั้นค่อนข้างซับซ้อน กล่าวกันว่าต้นกำเนิดจริง ๆ นั้นมาจากยุคโรมันช่วงศตวรรษที่ 1 เพราะชนิตเซิลมีวิธีการปรุงที่คล้ายคลึงกับ Cotoletta alla Milanese ของชาวอิตาเลียน

กำเนิดในราชสำนักเวียนนา

ตามเรื่องเล่าในประวัติศาสตร์กล่าวกันว่าจอมพล Radetzky ได้นำ Schnitzel มาเผยแพร่ยังเวียนนา ประเทศออสเตรีย หลังจากที่เขาได้รับชัยชนะจากการรบทางทหารทางตอนเหนือของอิตาลี เมื่อเดินทางกลับมายังเวียนนา จักรพรรดิ Franz Joseph I (ปกครองในช่วงปี ค.ศ. 1848 1916) ของออสเตรียก็มีรับสั่งให้เขาอธิบายรายละเอียดทั้งหมดที่เกิดขึ้นระหว่างการรบ แต่แทนที่เขาจะอธิบายถึงกลยุทธ์และการต่อสู้ เขากลับพูดถึงการค้นพบอาหารที่ทำจากเนื้อลูกวัวทอดที่ยอดเยี่ยม ด้วยความหลงใหลในอาหาร จักรพรรดิจึงขอสูตรอาหารจากเขาเป็นการส่วนตัว และในเวลาไม่นานอาหารเมนูนี้ก็ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็วในราชสำนัก

ในยุคสมัยนั้นยังไม่มีหลักฐานชี้ชัดว่าเมนูนี้ถูกเรียกว่าอะไร จนกระทั่งได้แพร่หลายไปยังประเทศเพื่อนบ้านอย่างเยอรมัน เมนูนี้จึงถูกเรียกว่า Schnitzel ซึ่งแปลว่า การตัด ในภาษาเยอรมัน เพราะชนิตเซิลทำมาจากเนื้อสัตว์หลากหลายชนิด ที่ตัดออกมาจากกระดูกแล้วหั่นเป็นชิ้นบาง ๆ ก่อนจะนำมาทุบให้มีความนุ่มสม่ำเสมอกันแล้วนำไปชุบแป้งและเกล็ดขนมปังทอดกรอบ

ความแตกต่างระหว่างชนิตเซิลเยอรมันและออสเตรีย

เมื่อเวลาผ่านไปชนิตเซิลก็กลายเป็นอาหารที่ควบสองวัฒนธรรมเข้าไว้ด้วยกัน นั่นก็คือเยอรมันและออสเตรีย เพราะสองประเทศนี้ต่างก็ให้ความสำคัญกับชนิตเซิลมากพอ ๆ กัน แต่อย่างไรก็ตามชนิตเซิลของทั้งสองประเทศนั้นก็มีความแตกต่างกัน เพราะชนิตเซิลในเวียนนาจะนิยมใช้เนื้อลูกวัวแบบดั้งเดิม แต่ในเยอรมันจะนิยมใช้เนื้อหลากหลายชนิดทั้งเนื้อหมู เนื้อวัว เนื้อไก่ และเนื้อแกะ

ในเวียนนาชนิตเซิลที่ขึ้นชื่อมากที่สุดคือ Wiener Schnitzel หรือที่รู้จักกันอีกชื่อหนึ่งคือ สเต๊กเวียนนา ทำจากเนื้อลูกวัว เสิร์ฟพร้อมเลมอนฝานและสลัดมันฝรั่ง เป็นเมนูขึ้นชื่อที่ถูกเรียกขานว่าเป็นเมนูประจำชาติของออสเตรีย นอกจากนี้ Wiener Schnitzel ยังได้รับการขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ที่ได้รับความคุ้มครอง (Protected Geographical Indication (PGI) ตามกฎหมายสหภาพยุโรปอีกด้วย

ส่วนในเยอรมันเองก็มีชนิตเซิลที่ขึ้นชื่ออยู่หลากหลาย เช่น Jägerschnitzel เป็นชนิตเซิลที่ได้รับความนิยมมากที่สุดทำจากเนื้อลูกวัวเสิร์ฟพร้อมกับน้ำเกรวี่เห็ดเข้มข้น, Zigeunerschnitzel หรือ Gypsy schnitzel ทำมาจากเนื้อลูกวัว เนื้อหมู หรือเนื้อไก่เสิร์ฟพร้อมซอสพริกหยวกรสชาติเผ็ดร้อน และ Rahmschnitzel ทำจากเนื้อลูกวัว เนื้อหมู หรือเนื้อไก่เสิร์ฟพร้อมกับซอสครีม โดยเมนูต่าง ๆ เหล่านี้เราสามารถรับประทานได้ตามร้านอาหารท้องถิ่นในเยอรมัน

ศิลปะการทำชนิตเซิลและการแพร่หลายทั่วโลก

หัวใจของชนิตเซิลที่สมบูรณ์แบบอยู่ที่ศิลปะในการเตรียม เริ่มจากการหั่นเนื้อเป็นชิ้นบาง ๆ แล้วทุบให้นุ่มจนแบนทำให้มีความหนาสม่ำเสมอกัน จากนั้นเนื้อจะถูกชุบด้วยแป้ง ไข่ และเกล็ดขนมปัง แล้วนำไปทอดในไฟกลาง ๆ เพื่อให้มีความสุกที่สม่ำเสมอกัน ทอดจนกรอบนอกนุ่มในชุ่มฉ่ำ เสิร์ฟพร้อมกับเครื่องเคียงแบบดั้งเดิมที่ช่วยเสริมรสชาติและเนื้อสัมผัสเช่น มะนาวฝาน มันบด สลัดมันฝรั่ง และเฟรนซ์ฟราย

ชนิตเซิลได้ก้าวข้ามพรมแดนต่าง ๆ จนกลายเป็นอาหารล้ำค่าในหลายประเทศทั่วโลก ด้วยความเรียบง่ายและรสชาติที่อร่อย ชนิตเซิลจึงถูกพัฒนารสชาติให้มีความหลากหลายเข้ากับวัฒนธรรมของท้องถิ่นต่าง ๆ เช่น Chicken Fried Steak ในอเมริกา นอกจากนี้ชนิตเซิลยังได้เข้ามามีบทบาทในวัฒนธรรมป๊อปอีกด้วย ซึ่งมักจะปรากฏอยู่ตามภาพยนตร์ รายการทีวี และตำราอาหารมากมาย

Tags :

บทความที่เกี่ยวข้อง
Jartisann (จาร์ทิซานน์)
ชวนรู้จัก Jartisann (จาร์ทิซานน์) แบรนด์ชีสสัญชาติไทยแท้ 100% ผลิตในจังหวัดเชียงใหม่
Bay Leaf (ใบกระวาน)
Bay Leaf (ใบกระวาน) เครื่องเทศตะวันตกกับความเชื่อเรื่องสัญลักษณ์แห่งเกียรติยศ
Rutabaga (รูตาบากา)
Rutabaga (รูตาบากา) : ผักรากมหัศจรรย์จากสแกนดิเนเวีย สู่จานโปรดทั่วโลก
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ