Margherita (มาร์การิตา)
เรื่องราวอันน่าหลงใหลของพิซซ่า (Pizza) อาหารยอดนิยมที่คนทั่วโลกหลงรัก ต้องย้อนกลับไปที่เมืองเนเปิลส์ (Naples) เมืองหลวงอันเก่าแก่ของแคว้นกัมปาเนีย ทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศอิตาลี กล่าวกันว่าเมืองแห่งนี้เป็น เมืองแห่งพิซซ่า เพราะพิซซ่าชนิดแรกของโลกได้ถือกำเนิดขึ้นที่นี่
กำเนิดพิซซ่าในเนเปิลส์: จากอาหารคนยากจนสู่สัญลักษณ์แห่งการอบขนมปัง
ในอดีตเนเปิลส์ถือเป็นหนึ่งในเมืองใหญ่ของคาบสมุทรอิตาลีที่มีความเจริญรุ่งเรืองทางเศรษฐกิจเป็นอย่างมาก มีประชากรอาศัยอยู่เนืองแน่น แต่แล้ววันหนึ่งเศรษฐกิจในเมืองแห่งนี้ก็เริ่มถดถอย จนก้าวไปสู่ยุคที่คนยากจนล้นเมือง พวกเขาประสบปัญหาในการหาอาหารดี ๆ ทาน ต้องทนทานขนมปังเปล่า ๆ วันแล้ววันเล่า จนในที่สุดพวกเขาก็ผุดไอเดียนำขนมปังแผ่นบาง ๆ โรยหน้าด้วยสมุนไพรและเครื่องเทศราคาถูก อบให้สุกในเตาฟืนแล้วเสิร์ฟแบบง่าย ๆ จนกลายมาเป็นพิซซ่าชนิดแรกของโลก เรียกว่า Pinsa ในภาษาอิตาลี ซึ่งแปลว่าขนมปัง แต่ปัจจุบันได้เพี้ยนมาเป็น Pizza
อย่างไรก็ตามมีหลักฐานทางโบราณคดีเกี่ยวกับต้นกำเนิดของพิซซ่าที่เชื่อมโยงกับเมืองเนเปิลส์ โดยการค้นพบเตาฟืนโบราณภายในซากปรักหักพังของปอมเปอี นครโบราณที่ถูกภูเขาไฟวิสุเวียสถล่มตั้งแต่ ค.ศ. 79 จุดนี้ห่างจากเนเปิลส์เพียง 23 กิโลเมตรเท่านั้น เตาฟืนดังกล่าว ยังคงหลงเหลือร่องรอยเถ้าถ่านของขนมปังติดอยู่ ซึ่งเป็นหลักฐานยืนยันว่าชาวโรมันอบขนมปังในเตาฟืนมาตั้งแต่สมัยนั้นแล้ว ดังนั้นจึงสันนิษฐานกันว่าชาวเนเปิลส์น่าจะได้รับอิทธิพลการอบขนมปังในเตาฟืนมาจากชาวโรมัน ในกรุงโรมโบราณ
มาร์การิตา: จากอาหารดูถูกสู่พิซซ่าราชวงศ์
ในอดีตพิซซ่าเคยถูกมองว่าเป็นอาหารของคนจน ถึงขั้นโดนเหยียดว่าเป็น ขนมปังจากท่อน้ำทิ้ง และ น่าขยะแขยง จนกระทั่งในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของพิซซ่าจากอาหารคนยากไร้สู่อาหารสูงส่งของราชวงศ์อิตาลีก็ได้เริ่มต้นขึ้น เมื่อกษัตริย์อุมแบร์โตที่ 1 (King Umberto I) และราชินีมาร์การิตา (Queen Margherita) ผู้ปกครองอิตาลีในเวลานั้น ได้เดินทางมาเยือนเมืองเนเปิลส์ ซึ่งเคยเป็นเมืองหลวงของอาณาจักรทางตอนใต้มาก่อน
พอเดินทางมาถึงเนเปิลส์ ราชินีมาร์การิตาก็ประสงค์ที่จะรับประทานอาหารพื้นเมืองของชาวเนเปิลส์ จึงเรียก ราฟาเอลเล เอสโปซิโต (Raffaele Esposito) นักอบพิซซ่าที่มีชื่อเสียงที่สุดในเนเปิลส์ในขณะนั้น มาเข้าเฝ้า จากนั้นจึงรับสั่งให้เขารังสรรค์พิซซ่ามา 3 รูปแบบ โดยมีโจทย์ว่าพิซซ่าจะต้องมีรสชาติสดชื่นและสีสันสดใส
เมื่อได้โจทย์มาเช่นนั้น ราฟาเอลเลจึงไม่รอช้า เขาคิดค้นพิซซ่ามา 3 รูปแบบ เพื่อนำเสนอแก่ราชินี โดยพิซซ่ารูปแบบแรก คือ Pizza Marinara (พิซซ่ามารินารา) และรูปแบบที่สอง คือ Pizza Napoli (พิซซ่านาโปลี) ว่ากันว่าพิซซ่าทั้งสองรูปแบบนี้ไม่ถูกใจราชินี แต่รูปแบบที่สาม ซึ่งก็คือ Pizza Margherita (พิซซ่ามาร์การิตา) ตั้งชื่อตามราชินี กลับเป็นที่โปรดปรานของพระองค์ยิ่งนัก เนื่องจากพิซซ่าชนิดนี้มีสีสันสดใสและรสชาติสดชื่นที่มาจากส่วนผสมอย่างมะเขือเทศ ใบโหระพา และมอสซาเรลลาชีส กล่าวกันว่าสีสันที่ปรากฏอยู่บนพิซซ่ามาร์การิตานั้นได้รับแรงบันดาลใจมาจากสีของธงชาติอิตาลี ซึ่งก็คือสีเขียว สีขาว และสีแดง นั่นเอง
พิซซ่ามาร์การิตา: สัญลักษณ์ของอาหารอิตาเลียนสู่เวทีโลก
เมื่อเวลาผ่านไปพิซซ่ามาร์การิตาก็ได้รับความนิยมอย่างล้นหลามในเมืองเนเปิลส์ และในไม่ช้าความนิยมนี้ก็แพร่ขยายออกไปตามเมืองต่าง ๆ ทั่วทั้งอิตาลี จนกลายมาเป็นสัญลักษณ์แห่งความเป็นเลิศของอาหารอิตาเลียน ซึ่งร้านอาหารแทบจะทุกหนทุกแห่งในอิตาลีจะต้องมีพิซซ่ามาร์การิตาเป็นหนึ่งในเมนูหลัก
ในเวลาต่อมาชื่อเสียงของพิซซ่ามาร์การิตาเริ่มแพร่กระจายไปยังส่วนอื่น ๆ ของโลก เมื่อผู้อพยพชาวอิตาลีนำประเพณีการทำอาหารติดตัวไปด้วย ปัจจุบันพิซซ่ามาร์การิตาจึงเป็นหนึ่งในพิซซ่ายอดนิยมและเป็นที่รู้จักทั่วโลก ด้วยความเรียบง่ายและความสมดุลในเรื่องของรสชาติที่มาจากมะเขือเทศสีแดงสด มอสซาเรลล่าครีมสีขาว และใบโหระพาสีเขียวที่มีกลิ่นหอม