Welsh Rarebit (เวลช์ แรร์บิท)

Welsh rarebit เป็นอาหารดั้งเดิมที่มีต้นกำเนิดในเวลส์ ทำมาจากชีสร้อนผสมมัสตาร์ดและเครื่องเทศเสิร์ฟบนขนมปังอบ เดิมทีอาหารจานนี้จะใช้ชื่อว่า Welsh rabbit แต่เนื่องจากในเมนูนี้ไม่ได้มีส่วนผสมของเนื้อกระต่ายเลย ในช่วงศตวรรษที่ 18 จึงเปลี่ยนมาใช้ชื่อ Welsh rarebit แทน

ประวัติของ Welsh Rarebit: จาก Caws Pobi สู่ตำนานขบขัน

ประวัติของ Welsh rarebit สามารถสืบย้อนไปไกลถึงปี ค.ศ. 1500 มีต้นกำเนิดอยู่ในหมู่บ้านทางตอนใต้ของเวลส์ ขณะนั้นเมนูนี้จะถูกเรียกว่า Caws pobi ซึ่งเป็นภาษาเวลส์ที่แปลว่า ชีสอบ โดยสูตรดั้งเดิมจะมีแค่ชีสอบบนขนมปังเท่านั้น ไม่ได้มีการเติมเครื่องเทศหรือส่วนผสมอื่นใดลงไป

มีตำนานที่ชาวอังกฤษเล่ากันว่า ครั้งหนึ่งพระเจ้าเคยขอให้นักบุญปีเตอร์ขับไล่ชาวเวลส์ที่สร้างความวุ่นวายปั่นป่วนแก่พระองค์ให้พ้นไปจากประตูสวรรค์ นักบุญปีเตอร์จึงหาทุกวิถีทาง เพื่อขับไล่ชาวเวลส์ออกไป จนกระทั่งไปสืบทราบมาว่าชาวเวลส์หลงไหลในอาหารที่ชื่อ Caws pobi เป็นอย่างมาก นักบุญปีเตอร์จึงหลอกล่อชาวเวลส์ด้วยการตะโกนว่ามี Caws pobi แสนอร่อยอยู่ทางนี้!! ชาวเวลส์ผู้หลงใหลในเมนูนี้ จึงพากันวิ่งกรูออกไปตามเสียงนั้น แต่ทันทีที่ชาวเวลส์ก้าวขาพ้นประตูสวรรค์ไป พระเจ้าก็ปิดประตูลงทันที เป็นเรื่องราวชวนหัวเราะอีกหนึ่งเรื่องของชาวอังกฤษที่ถูกเล่าต่อกันมาจนถึงรุ่นลูกรุ่นหลาน

จาก Welsh Rabbit สู่ Welsh Rarebit: การปรับชื่อเพื่อความเข้าใจ

ในเวลาต่อมาช่วงศตวรรษที่ 17 เมนูที่ชื่อว่า Caws pobi ก็ถูกเรียกโดยชาวอังกฤษว่า Welsh rabbit ก่อนจะถูกเปลี่ยนมาใช้ชื่อ Welsh rarebit ในช่วงศตวรรษที่ 18 มาจนถึงปัจจุบัน

สาเหตุที่ชาวอังกฤษเรียกเมนูนี้ว่า Welsh rabbit ในครั้งแรกนั้นไม่แน่ชัด อาจเกิดจากความเข้าใจผิดในเรื่องของภาษา โดยคำว่า Caws pobi ในภาษาเวลส์ถูกแปลเป็นภาษาอังกฤษว่า Welsh rabbit แทนที่จะเป็นคำว่า Baked cheese ที่แปลว่าชีสอบ นักประวัติศาสตร์เชื่อกันว่าในช่วงศตวรรษที่ 17-18 มักจะมีการตั้งชื่ออาหารให้ฟังดูตลก เช่น Spotted dick หรือ Toad in the hole โดยที่หาความเชื่อมโยงกับหน้าตาอาหารจานนั้น ๆ ไม่ได้เลย กรณี Welsh rabbit ที่ไม่มีเนื้อกระต่ายอยู่ในจานก็เช่นกัน

จากนั้น Welsh rabbit จึงถูกเปลี่ยนมาเป็น Welsh rarebit ตามพจนานุกรมอ๊อกซ์ฟอร์ดที่ต้องการให้ชื่อกับอาหารดูเหมาะสมกันยิ่งขึ้นและเลี่ยงการเข้าใจผิด

การอ้างอิงและพัฒนาสูตร: ชีสละลายในแบบฉบับอังกฤษ

การอ้างอิงถึง Welsh rabbit ที่เก่าแก่ที่สุด คือตำราอาหารจากปี 1725 ชื่อ The Compleat Housewife เขียนโดย Eliza Smith ในตำราอาหารเล่มนี้มีสูตรของ Welsh rabbit ปรากฏอยู่ด้วย ซึ่งสูตรนี้ Welsh rabbit ทำมาจากชีสละลายผสมเบียร์หรือเอล เสิร์ฟบนขนมปังปิ้ง และหลังจากสูตรนี้ได้รับการเผยแพร่เมนูนี้ก็มีสูตรที่พัฒนาขึ้นมาหลากหลาย เช่น การเพิ่มมัสตาร์ด ซอสวูสเตอร์เชียร์ และเครื่องปรุงรสอื่น ๆ ลงไป

Welsh Rarebit ในวัฒนธรรมสมัยนิยมและปัจจุบัน

ทุกวันนี้ Welsh rarebit ยังคงได้รับความนิยมไปทั่วโลก โดยมีการพัฒนาสูตรขึ้นมามากมาย บางคนอาจจะเพิ่มแฮมหรือไส้กรอกลงไปด้วย เพื่อเพิ่มอรรถรสในการทาน รวมไปถึงการใช้ชีสหรือขนมปังที่หลากหลาย ดังนั้นทุกวันนี้การทำ Welsh rarebit จึงไม่มีสูตรตายตัว มักเสิร์ฟเป็นของว่างในผับ

อาหารจานนี้ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมสมัยนิยม โดยปรากฏในหนังสือ รายการโทรทัศน์ และภาพยนตร์มากมาย อาทิเช่น Phantom Thread (2017) ของผู้กำกับ Paul Thomas Anderson ที่คว้ารางวัล Academy Award และได้รับเสียงชื่นชมจำนวนมาก

ซึ่งเมนู Welsh rarebit ได้ปรากฏอยู่ในฉากที่พระเอกเข้าไปใช้บริการห้องอาหารของโรงแรมในกรุงลอนดอน เขานั่งคอยให้บริกรสาวที่กำลังให้บริการแขกคนอื่น ๆ มาให้บริการตนเอง เมื่อถึงคราวสั่งอาหาร พระเอกก็จ้องมองดวงตาของบริกรสาวราวกับจะกลืนกินเธอเข้าไปทั้งตัว ก่อนที่จะเอ่ยถึงรายการอาหารที่เขาต้องการ ซึ่งในเมนูที่เขาสั่งหนึ่งในนั้นมี Welsh rarebit ปรากฏอยู่ด้วย ซึ่งนี่ถือเป็นภาพยนตร์เรื่องแรก ๆ เลยก็ว่าได้ที่นำเอาเมนูที่ไม่ค่อยเป็นที่รู้จักอย่าง Welsh rarebit มาเอ่ยถึงในฉากของภาพยนตร์