Risoni (ริโซนี่) หรือ Orzo (ออร์โซ่)
Risoni (ริโซนี) เป็นพาสต้าชนิดหนึ่งที่มีขนาดเล็ก และมีลักษณะคล้ายกับเมล็ดข้าว โดยคำว่า Risoni มาจากภาษาอิตาเลียนคำว่า Riso หมายถึง ข้าว เนื่องจากพาสต้าชนิดนี้มีรูปร่างคล้ายคลึงกับเมล็ดข้าว จึงได้รับการตั้งชื่อตามลักษณะภายนอกที่โดดเด่นนี้
การทำ Risotto โดยใช้ Risoni แทนข้าว จะให้รสสัมผัสที่แตกต่างออกไปเล็กน้อย แต่ยังคงความครีมมี่ และรสชาติที่ลุ่มลึกไม่แพ้กัน นอกจากนี้ Risoni ยังถูกนำมาใช้ใน Pasta Salad ในช่วงฤดูร้อนของอิตาลีด้วย โดยชาวอิตาเลียนนิยมทำสลัดพาสต้าเย็น ๆ ผสมกับผักสด ชีส เนื้อสัตว์ และน้ำสลัดรสเปรี้ยวอมหวาน
ในอดีตการทำ Risoni เป็นงานที่ต้องใช้ความชำนาญสูง โดยใช้เครื่อง Extruder ขนาดเล็กที่มีหัวพิมพ์เฉพาะสำหรับ Risoni แป้งพาสต้าจะถูกอัดออกมาเป็นเส้นยาว ๆ ก่อนถูกตัดเป็นชิ้นเล็ก ๆ แล้วนำไปตากให้แห้งสนิท
สามารถหาซื้อพาสต้า Risoni ได้ที่ริมปิงทุกสาขานะคะ
Orzo อีกหนึ่งชื่อเรียกของ Risoni
อย่างไรก็ตามในบางภูมิภาค โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสหรัฐอเมริกา พาสต้าชนิดนี้มักถูกเรียกว่า Orzo ซึ่งในภาษาอิตาเลียนหมายความว่า ข้าวบาร์เลย์ เนื่องจากมีลักษณะคล้ายคลึงกัน โดยความแตกต่างในการเรียกชื่อนี้สะท้อนให้เห็นถึงการแพร่กระจายของพาสต้าชนิดนี้ผ่านการเดินทางข้ามพรมแดน และการผสมผสานเข้ากับวัฒนธรรมการบริโภคอาหารที่หลากหลายจุดเริ่มต้นการใช้ Risoni ในอาหาร
ในช่วงแรก Risoni ถูกคิดค้นขึ้นมาเพื่อใช้เป็นส่วนผสมในซุปผักอย่าง Minestrone หรือซุปไก่ เพื่อเพิ่มเนื้อสัมผัส และคุณค่าทางโภชนาการ ทำให้อาหารอิ่มท้อง และมีเนื้อสัมผัสที่น่าสนใจ Risoni จะดูดซับน้ำซุป และรสชาติของวัตถุดิบอื่น ๆ ทำให้พาสต้าแต่ละเม็ดมีรสชาติที่กลมกล่อมมากยิ่งขึ้นทางเลือกแทนข้าวสำหรับ Risotto
นอกจากซุปแล้ว Risoni ยังถูกนำไปใช้ในอาหารจานหลักอื่น ๆ เช่น Risotto เนื่องจากมีที่รูปทรงคล้ายข้าว ทำให้ Risoni ถูกใช้เป็นทางเลือกแทนข้าวสำหรับทำ Risotto ในบางภูมิภาค โดยเฉพาะในยุคที่ข้าวหายาก หรือมีราคาแพงการทำ Risotto โดยใช้ Risoni แทนข้าว จะให้รสสัมผัสที่แตกต่างออกไปเล็กน้อย แต่ยังคงความครีมมี่ และรสชาติที่ลุ่มลึกไม่แพ้กัน นอกจากนี้ Risoni ยังถูกนำมาใช้ใน Pasta Salad ในช่วงฤดูร้อนของอิตาลีด้วย โดยชาวอิตาเลียนนิยมทำสลัดพาสต้าเย็น ๆ ผสมกับผักสด ชีส เนื้อสัตว์ และน้ำสลัดรสเปรี้ยวอมหวาน
การแพร่หลายของ Risoni ในต่างแดน
เมื่อเวลาผ่านไป Risoni ก็ได้แพร่หลายไปยังภูมิภาคอื่น ๆ และถูกปรับเปลี่ยนให้เข้ากับรสชาติของแต่ละท้องถิ่น ตัวอย่างเช่น
- กรีซ เรียกว่า Kritaraki หรือ Manestra มักใช้ในเมนู Giouvetsi ซึ่งเป็นการอบพาสต้ากับเนื้อแกะหรือเนื้อวัวในหม้อดินเผา
- ตุรกี เรียกว่า Arpa Şehriye นิยมใช้ในซุป หรือข้าวอบแบบตุรกี
ส่วนผสมหลักและกรรมวิธีการผลิตแบบดั้งเดิม
Risoni ผลิตจากแป้งดูรัมเซโมลินา (Durum Semolina) เช่นเดียวกับพาสต้าประเภทอื่น ๆ เมื่อนำมาต้มจะให้เนื้อสัมผัสที่นุ่มเหนียวคล้ายคลึงกับข้าวที่ปรุงสุก แต่ยังคงรักษาลักษณะเฉพาะของพาสต้าไว้อย่างชัดเจนในอดีตการทำ Risoni เป็นงานที่ต้องใช้ความชำนาญสูง โดยใช้เครื่อง Extruder ขนาดเล็กที่มีหัวพิมพ์เฉพาะสำหรับ Risoni แป้งพาสต้าจะถูกอัดออกมาเป็นเส้นยาว ๆ ก่อนถูกตัดเป็นชิ้นเล็ก ๆ แล้วนำไปตากให้แห้งสนิท
ลักษณะเฉพาะของ Risoni
โดยทั่วไป Risoni จะมีความยาวประมาณ 1-2 เซนติเมตร และมีลักษณะแบนเล็กน้อยคล้ายเมล็ดข้าวสารที่ผ่านการขัดสีมาแล้ว พาสต้าชนิดนี้ถูกจัดอยู่ในกลุ่ม Pastina (พาสต้าขนาดเล็ก) ซึ่งมักใช้สำหรับทำซุปหรืออาหารสำหรับเด็กเป็นหลัก แต่ Risoni มีความพิเศษกว่า เพราะมีขนาดใหญ่และรูปทรงเฉพาะ สามารถนำไปใช้ในเมนูที่หลากหลายมากขึ้นการผลิตเชิงอุตสาหกรรมในปัจจุบัน
ปัจจุบันกระบวนการผลิต Risoni ได้ถูกพัฒนาไปสู่ระดับอุตสาหกรรมอย่างเต็มรูปแบบ โรงงานผลิตพาสต้าขนาดใหญ่ใช้เครื่องจักร Extruder ที่ทันสมัย สามารถผลิต Risoni ได้จำนวนมากอย่างรวดเร็ว และคงคุณภาพสม่ำเสมอในทุกเม็ดความนิยมและการประยุกต์ใช้ทั่วโลก
แม้ว่า Risoni จะมีรากฐานอยู่ในอาหารอิตาเลียนดั้งเดิม แต่ด้วยความยืดหยุ่นในการปรับใช้ ทำให้ได้รับความนิยมในระดับสากล ถูกนำไปใช้ในเมนูต่าง ๆ เช่น Baked Pasta, Casserole และ Sautéed Risoni ที่ผัดกับวัตถุดิบหลากหลายอย่างเห็ด ไส้กรอก หรือผักโขมทางเลือกเพื่อสุขภาพ
ในแง่ของอาหารสุขภาพ Risoni เป็นตัวเลือกที่ดี เนื่องจากแป้งดูรัมเซโมลินามีโปรตีน และใยอาหารสูงกว่าแป้งสาลีทั่วไป ปัจจุบันยังมี Risoni Whole Wheat ที่ทำจากโฮลวีท ช่วยเพิ่มคุณค่าทางโภชนาการ และตอบโจทย์ผู้บริโภคที่ใส่ใจสุขภาพสามารถหาซื้อพาสต้า Risoni ได้ที่ริมปิงทุกสาขานะคะ
บทความที่เกี่ยวข้อง
ทำความรู้จัก Flexitarianism (เฟลกซิทาเรียนนิสซึม) อีกหนึ่งทางเลือกของการบริโภค
ทำความรู้จัก Quinoa (ควินัว) เมล็ดธัญพืชเทียมสารพัดประโยชน์ที่มีถิ่นกำเนิดในแถบอเมริกาใต้