แชร์

Chinese Cooking Wine (เหล้าจีน)

เสน่ห์ของอาหารนั้นมีหลากหลายไม่ว่าจะเป็นรสชาติ การตกแต่งจาน การคัดสรรวัตถุดิบ และกลิ่นของอาหารที่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเป็นอีกหนึ่งสิ่งสำคัญที่ดึงดูดอาหารให้น่ารับประทานมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะกลิ่นหอมของแอลกอฮอล์ที่ทำให้อาหารของเราดูมีเสน่ห์และซับซ้อน ด้วยเหตุนี้เองเทคนิคการนำเหล้าหรือแอลกอฮอล์มาทำอาหารจึงเป็นวัฒนธรรมที่อยู่คู่ครัวทั่วโลกมาอย่างยาวนาน ในวันนี้เราจะมาพูดถึงเรื่องราวของการนำเหล้าจีนมาทำอาหารกันค่ะ

เหล้าจีนในครัวโลก: เอกลักษณ์แบบเอเชีย

เทคนิคการนำเหล้าหรือแอลกอฮอล์มาทำอาหารจริง ๆ แล้วเป็นเทคนิคที่มีการใช้งานอย่างแพร่หลายทั่วโลก ถ้าในฝั่งตะวันตกเราคงคุ้นเคยกับไวน์ หรือบรั่นดี แต่ในอาหารเอเชียการนำแอลกอฮอล์มาทำอาหารที่โดดเด่นที่สุดคงจะหนีไม่พ้นวัฒนธรรมการทำอาหารของชาวจีน ถ้าใครที่เคยทานอาหารจีนบ่อย ๆ น่าจะเคยเห็นอาหารจีนหลายเมนูที่ใช้เหล้าจีนเป็นส่วนประกอบหลัก ไม่ว่าจะเป็น ไก่แช่เหล้า ผัดผัก พระกระโดดกำแพง ซุปเห็ดน้ำแดง ต้มพะโล้ และอื่น ๆ อีกมากมาย แต่เหล้าจีนจะนิยมนำไปเป็นส่วนผสมในระหว่างทำอาหาร จะไม่นิยมนำมาราดบนอาหารแล้วจุดไฟทีหลังคล้ายกับของชาวตะวันตก

ประวัติศาสตร์เหล้าจีน: จากพิธีกรรมสู่เครื่องดื่มยอดนิยม

เหล้าจีนสำหรับทำอาหาร (Rice wine) หรือ ไวน์จีนที่หมักจากข้าว (Chinese rice wine) ส่วนใหญ่มักทำมาจากธัญพืชจำพวกข้าวเหนียว และข้าวสาลี โดยชาวจีนรู้จักการหมักเหล้าเมื่อ 5,000 ปีก่อนคริสตกาล ในสมัยราชวงศ์ซาง ช่วงเวลานี้ไวน์ข้าวถูกนำมาใช้เพื่อวัตถุประสงค์ในพิธีกรรมต่าง ๆ เช่น การเซ่นไหว้เทพเจ้าและบรรพบุรุษ นอกจากนี้ยังใช้ในยาจีนโบราณ เพื่อเป็นยาบำรุงร่างกาย

ในสมัยราชวงศ์ถัง (ค.ศ. 618-907) การผลิตและการบริโภคไวน์ข้าวก็ได้แพร่หลายมากขึ้นในหมู่ประชาชนทั่วไปและคนชั้นสูง จนกลายเป็นเครื่องดื่มที่ได้รับความนิยมในงานเลี้ยงและเทศกาลต่าง ๆ กระทั่งในช่วงราชวงศ์ซ่ง (ค.ศ. 960-1279) การผลิตไวน์ข้าวก็มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง มีการนำยีสต์มาใช้ในกระบวนการหมัก ทำให้ไวน์ข้าวมีรสชาติดีมากขึ้น จนกลายเป็นอุตสาหกรรมหลักทางตอนใต้ของจีน

ต่อมาในช่วงราชวงศ์หมิง (ค.ศ. 1368-1644) และราชวงศ์ชิง (ค.ศ. 1644-1912) การผลิตไวน์ข้าวก็ยังคงมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง และในช่วงเวลานี้เองที่ไวน์ข้าวถูกนำมาใช้ในการประกอบอาหารเป็นครั้งแรก โดยในภูมิภาคต่าง ๆ ของจีน เริ่มพัฒนาไวน์ข้าวที่มีลักษณะเฉพาะของตนเองขึ้นมา โดยใช้ข้าวและธัญพืชประเภทต่าง ๆ รวมไปถึงเทคนิคการหมักที่แตกต่างกันออกไป

คุณค่าทางวัฒนธรรมและประโยชน์ต่อสุขภาพ

ในวัฒนธรรมจีนไวน์ข้าวเป็นมากกว่าเครื่องดื่มหรือส่วนผสมในการทำอาหาร แต่ไวน์ข้าวเป็นสัญลักษณ์ของมิตรภาพ การต้อนรับ และการเฉลิมฉลอง ซึ่งมักเสิร์ฟในช่วงงานสังคมที่สำคัญ เช่น งานแต่งงาน การประชุมทางธุรกิจ และงานสังสรรค์ในครอบครัว

นอกจากนี้ชาวจีนยังมีความเชื่ออีกว่าไวน์ข้าวสำหรับทำอาหารมีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย ช่วยเพิ่มการไหลเวียนโลหิต ส่งเสริมการย่อยอาหาร และลดความเครียด ในทางการแพทย์แผนจีนไวน์ข้าวนิยมใช้เป็นยาบำรุงตับและไต

เสน่ห์ของเหล้าจีนในอาหาร: รสชาติลุ่มลึกที่ไร้แอลกอฮอล์

ในโลกของการทำอาหารไวน์ข้าวหรือเหล้าจีนจะช่วยให้อาหารของเรามีกลิ่นหอม และมีรสชาติที่ลุ่มลึกมากยิ่งขึ้น เนื่องจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เหล่านี้ผ่านการหมักบ่มมาเป็นเวลานาน จึงทำให้มีรสชาติที่ซับซ้อน รวมไปถึงมีกลิ่นหอมอันเป็นเอกลักษณ์ การใช้ความร้อนทำอาหารจะทำให้แอลกอฮอล์ระเหยไป เหลือไว้เพียงรสชาติและกลิ่นหอมเฉพาะตัว ช่วยให้อาหารอร่อยมากยิ่งขึ้น

อย่างไรก็ตามการนำเหล้าจีนหรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มาทำอาหาร ไม่ได้ส่งผลให้เราเกิดอาการมึนเมาเหมือนที่เราดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์โดยตรง เพราะเมื่อโดนความร้อนแอลกอฮอล์จะระเหยไปจนแทบจะไม่เหลืออยู่เลย ดังนั้นคนที่ไม่ชอบดื่มแอลกอฮอล์ ก็สามารถรับประทานอาหารที่มีส่วนผสมมาจากแอลกอฮอล์ได้เช่นกัน

Tags :

บทความที่เกี่ยวข้อง
Bone marrow (ไขกระดูก)
Bone marrow (ไขกระดูก) อาหารของมนุษย์ยุคหิน... กลายมาเป็นอาหารอันโอชะในยุคปัจจุบันได้อย่างไร?
Butter of gods (เนยไขกระดูก)
If God made butter it would taste exactly like bone marrow. - Anthony Bourdain
Purple Cauliflower (กะหล่ำดอกสีม่วง)
Purple Cauliflower (กะหล่ำดอกสีม่วง) และกะหล่ำดอกสีขาว: ไม่ได้ต่างกันแค่สี แต่ยังมีคุณค่าทางโภชนาการที่ต่างกันอีกด้วย
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ