แชร์

Vegetarian Noodle (บะหมี่มังสวิรัติ)

การกินเจและมังสวิรัติ: รากฐานอันยาวนานในอารยธรรมมนุษย์

แนวคิดของการรับประทานอาหารมังสวิรัติไม่ได้เป็นเพียงกระแสที่เพิ่งเกิดขึ้น แต่มีประวัติศาสตร์ยาวนานย้อนหลังไปถึงยุคสำริด (3300 ถึง 1300 ปีก่อนคริสตกาล) โดยมีการบันทึกว่าชุมชนบางกลุ่มในอารยธรรมลุ่มแม่น้ำสินธุได้เลือกที่จะละเว้นการบริโภคเนื้อสัตว์ด้วยเหตุผลทางศาสนาและจิตวิญญาณ แนวคิดนี้ได้ขยายอิทธิพลมายังประเทศในทวีปเอเชีย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในจีนและอินเดีย ซึ่งศาสนาสำคัญอย่างพุทธศาสนาและศาสนาฮินดูต่างก็ส่งเสริมการละเว้นเนื้อสัตว์ในหมู่ผู้นับถือ

ในขณะเดียวกัน บะหมี่ ซึ่งเป็นอาหารหลักในหลายวัฒนธรรม มีต้นกำเนิดจากประเทศจีนเมื่อประมาณ 4,000 ปีก่อน จากการค้นพบเส้นบะหมี่ที่ทำจากข้าวฟ่างในพื้นที่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของจีน ก่อนที่วัฒนธรรมการบริโภคบะหมี่จะแพร่หลายไปยังประเทศอื่นๆ ในเอเชียและยุโรป

บทบาทของพุทธศาสนาในการเผยแพร่บะหมี่มังสวิรัติในจีน

ประเทศจีนเป็นประเทศหนึ่งที่มีการรับประทานอาหารเจและมังสวิรัติกันอย่างแพร่หลาย เนื่องจากชาวจีนส่วนใหญ่นับถือศาสนาพุทธ วัดพุทธในจีนจึงมีบทบาทสำคัญในการเผยแพร่อาหารเจ โดยพระสงฆ์และแม่ชีจะปรุงอาหารที่ทำจากพืชผัก ธัญพืช และเต้าหู้ เพื่อเป็นอาหารสำหรับตนเองและพุทธศาสนิกชนที่มาทำบุญ อาหารเหล่านี้ได้รับการคิดค้นและพัฒนาให้มีรสชาติอร่อยและหลากหลายตอบรับกับความต้องการของผู้คน

ช่วงราชวงศ์ถัง (ค.ศ. 618-907) เป็นยุคที่พุทธศาสนารุ่งเรืองอย่างมากในจีน ส่งผลให้การบริโภคอาหารเจได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย ไม่ได้จำกัดอยู่แค่ในบริเวณวัด แต่ยังกระจายไปสู่หมู่พุทธศาสนิกชนทั่วไปด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเทศกาลกินเจ (ประเพณี 9 วันในเดือน 9 ตามปฏิทินจีน) ก๋วยเตี๋ยวเจถือเป็นเมนูยอดนิยมที่หาทานได้ง่ายและเป็นที่โปรดปรานของผู้คนในช่วงเวลานั้น

การขยายตัวของบะหมี่มังสวิรัติในเอเชียและตะวันตก

ในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 บะหมี่ถูกนำเข้ามาสู่ญี่ปุ่นโดยแรงงานและนักศึกษาชาวจีน และต่อมาได้พัฒนาเป็น "ราเม็ง" รวมถึงบะหมี่หลากหลายรูปแบบอื่นๆ ในยุคแรก บะหมี่ในญี่ปุ่นมักมีไข่เป็นส่วนผสมหลัก เพื่อช่วยให้เส้นมีความยืดหยุ่น เหนียวหนึบ และมีรสชาติกลมกล่อม อย่างไรก็ตาม ในเวลาต่อมาก็มีการพัฒนาสูตรบะหมี่มังสวิรัติเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่หลากหลายมากขึ้น

สำหรับประเทศไทย การบริโภคบะหมี่มังสวิรัติมีจุดเริ่มต้นจากวัฒนธรรมการกินเจของชาวไทยเชื้อสายจีน ซึ่งนิยมรับประทานกันอย่างแพร่หลายในช่วงเทศกาลกินเจ โดยมีเมนูยอดนิยม เช่น ผัดไทยเจ ก๋วยเตี๋ยวเจ และผัดหมี่ซั่วเจ ที่เป็นที่รู้จักกันดี

ในฝั่งยุโรปและสหรัฐอเมริกา การบริโภคอาหารมังสวิรัติและวีแกน (Vegan) เริ่มได้รับความนิยมมากขึ้นในช่วงไม่กี่ทศวรรษที่ผ่านมา ซึ่งสะท้อนให้เห็นจากการพัฒนามาตรฐานและฉลากอาหารมังสวิรัติอย่างเป็นทางการ เช่น การมีเครื่องหมาย Vegan หรือ Vegetarian บนบรรจุภัณฑ์อาหารเส้นต่างๆ

ปัจจัยขับเคลื่อนความนิยมของบะหมี่มังสวิรัติในปัจจุบัน

แม้ในช่วงแรก บะหมี่มังสวิรัติจะได้รับความนิยมในกลุ่มผู้ที่รับประทานอาหารมังสวิรัติโดยเฉพาะ แต่ในปัจจุบัน เมื่อผู้คนหันมาใส่ใจสุขภาพและสิ่งแวดล้อมมากขึ้น บะหมี่มังสวิรัติก็ได้เข้าถึงและได้รับความนิยมจากกลุ่มผู้บริโภคในวงกว้างอย่างต่อเนื่อง จุดเปลี่ยนสำคัญนี้เกิดจากหลายปัจจัยที่เกี่ยวพันกับการดูแลสุขภาพและความตระหนักด้านสิ่งแวดล้อมดังต่อไปนี้:

  • ความกังวลด้านสุขภาพ (Health Concern): ผู้บริโภคเริ่มตระหนักและหลีกเลี่ยงการบริโภคเนื้อสัตว์ที่อาจมีสารตกค้าง เช่น ยาปฏิชีวนะและฮอร์โมน นอกจากนี้ ผู้ที่มีปัญหาการย่อยหรือแพ้เนื้อสัตว์ ก็หันมารับประทานอาหารจากพืชมากขึ้น เนื่องจากอาหารจากพืชสามารถให้คุณค่าทางโภชนาการที่ครบถ้วน ทั้งโปรตีน ธาตุเหล็ก กรดไขมันจำเป็น และวิตามินบี 12
  • การพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ดีขึ้นและรสชาติที่ใกล้เคียงเนื้อสัตว์: ด้วยเทคโนโลยีการผลิตอาหาร Plant-Based ที่ก้าวหน้าอย่างมากในปัจจุบัน มีการใช้โปรตีนจากถั่วเหลือง ยีสต์ และเทคนิคการพิมพ์ 3D-Printing เพื่อสร้างเนื้อเทียมที่มีเนื้อสัมผัสและรสชาติใกล้เคียงเนื้อสัตว์จริงอย่างน่าทึ่ง ทำให้ผู้บริโภครู้สึกว่าไม่ขาดความอร่อยและยังคงได้รับสารอาหารครบถ้วน
  • กระแสรักษ์โลกและความยั่งยืน: กลุ่มผู้บริโภค โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ มีความใส่ใจในผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมที่เกิดจากการเลี้ยงสัตว์มากขึ้น จึงหันมาสนับสนุนอาหารที่ผลิตด้วยกระบวนการที่เป็นมิตรต่อโลก เช่น บะหมี่มังสวิรัติที่ช่วยลดการใช้ทรัพยากรธรรมชาติและลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก
  • การยอมรับในวงกว้างและการสนับสนุนจากวงการอาหาร: ร้านอาหารไฟน์ไดน์นิ่งระดับมิชลินในหลายประเทศ รวมถึงในประเทศไทย เริ่มเพิ่มเมนู Plant-Based และ Vegan เข้าไปในเมนูหลัก สิ่งนี้ช่วยส่งเสริมให้ผู้บริโภคเห็นว่าอาหารมังสวิรัติเป็นทางเลือกที่ทันสมัย มีรสชาติอร่อย และดีต่อสุขภาพ
  • ข้อมูลวิจัยและการรับรู้ด้านสุขภาพ: งานวิจัยจากองค์กรด้านสุขภาพชั้นนำ เช่น World Cancer Research Fund ชี้ให้เห็นว่าการลดหรือเลิกบริโภคเนื้อสัตว์ช่วยลดความเสี่ยงของโรคมะเร็ง เบาหวาน ความดันโลหิตสูง และโรคหัวใจ สิ่งเหล่านี้กระตุ้นให้ผู้บริโภคหันมาเลือกอาหารจากพืชเป็นหลักมากขึ้น
  • เทรนด์การกินแบบ Plant-Based และ Flexitarian: ผู้บริโภคจำนวนมากเลือกทานอาหารที่เน้นพืชเป็นหลัก (Plant-Based) หรือเป็นกลุ่ม Flexitarian ที่ยังคงบริโภคผลิตภัณฑ์จากสัตว์บ้างในบางโอกาส แต่ก็พยายามลดปริมาณการบริโภคเนื้อสัตว์ สิ่งนี้ทำให้ตลาดบะหมี่มังสวิรัติเติบโตอย่างรวดเร็ว เพื่อตอบสนองความต้องการอาหารที่ดีต่อสุขภาพและสะดวกต่อการบริโภค

ความแตกต่างระหว่างบะหมี่ปกติและบะหมี่มังสวิรัติ

บะหมี่ปกติ โดยส่วนใหญ่แล้วจะมีไข่เป็นส่วนประกอบหลัก นอกเหนือจากแป้งและน้ำ นอกจากนี้ บางสูตรอาจมีการใช้น้ำด่างหรือสารปรุงแต่งอื่นๆ สำหรับบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป อาจพบผงปรุงรสหรือน้ำมันที่มาจากเนื้อสัตว์เป็นส่วนประกอบด้วย

ในทางกลับกัน บะหมี่มังสวิรัติ จะไม่มีส่วนผสมของไข่และส่วนประกอบอื่นๆ ที่มาจากสัตว์ทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์จากนม เจลาตินจากสัตว์ หรือแม้แต่น้ำสต็อกที่ทำจากกระดูกสัตว์ที่อาจพบในผงปรุงรสของบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป บะหมี่มังสวิรัติที่บริสุทธิ์จะใช้วัตถุดิบจากพืช 100% ซึ่งสีที่ได้มาจากหลายแหล่ง เช่น สีธรรมชาติจากแป้ง น้ำด่าง และสีจากผักและผลไม้ต่างๆ ยกตัวอย่างเช่น:

  • สีเขียว: มักได้จากผักโขม คะน้า เคล และใบเตย
  • สีส้มหรือเหลือง: มักได้จากฟักทอง แครอท
  • สีม่วงหรือม่วงแดงอมม่วง: มักได้จากบีทรูท มันม่วง
Tags :

บทความที่เกี่ยวข้อง
Kimchi Bokkeumbap (กิมจิ บกกึมบับ, 김치볶음밥)
ทำความรู้จัก Kimchi Bokkeumbap (กิมจิ บกกึมบับ, 김치볶음밥) หรือข้าวผัดกิมจิอาหารจานยอดนิยมในประเทศเกาหลีใต้
Hotteok (ฮอตต็อก, 호떡)
ทำความรู้จัก Hotteok (ฮอตต็อก, 호떡) แพนเค้กสไตล์เกาหลีที่เป็นสตรีทฟู้ดยอดนิยม
Goguma Mattang (โกกุมา มัททัง, 고구마 맛탕)
ทำความรู้จัก Goguma Mattang (โกกุมา มัททัง, 고구마 맛탕) มันเทศเคลือบน้ำตาลคาราเมลขนมทานเล่นยอดนิยมของเกาหลี
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ