แชร์

Supermarket Therapy

ในยุคที่ชีวิตเต็มไปด้วยความเครียด และความวิตกกังวล หลายคนอาจพบว่าการเดินเล่นในซุปเปอร์มาร์เก็ต หรือที่เรียกว่า Supermarket Therapy เป็นกิจกรรมที่ช่วยปลอบประโลมจิตใจได้อย่างมาก โดยแนวคิดนี้ต่อยอดมาจากคำว่า Retail Therapy ซึ่งหมายถึงการช้อปปิ้ง เพื่อคลายเครียด แต่แตกต่างกันตรงที่ Supermarket Therapy ไม่ได้เน้นที่การซื้อของอย่างเดียว หากแต่เป็นการใช้บรรยากาศในซุปเปอร์มาร์เก็ตเป็นเสมือนพื้นที่พักใจ วันนี้ริมปิงมีเรื่องราวเกี่ยวกับแนวคิดดังกล่าวมาแบ่งปันให้ทุกท่านด้วยค่ะ

หลักฐานทางวิจัยที่สนับสนุน Supermarket Therapy

Supermarket Therapy ไม่ได้เป็นเพียงแนวคิด แต่มีหลักฐานรองรับในงานวิจัย ตัวอย่างเช่น การศึกษาในสหรัฐอเมริกาพบว่า การจัดกิจกรรมบำบัดด้านสุขภาพจิตสำหรับคุณแม่ในพื้นที่ซุปเปอร์มาร์เก็ต ช่วยลดอคติที่มักเกิดขึ้นเมื่อต้องไปคลินิก อีกทั้งยังทำให้ผู้เข้าร่วมรู้สึกผ่อนคลายมากขึ้นด้วย

ประสบการณ์เล่าจาก LinkedIn

นอกจากนี้ยังมีเรื่องเล่าบน LinkedIn ที่ผู้เขียนระบุว่า ทุกครั้งที่เขารู้สึกเครียด มักจะเลือกไปเดินสำรวจในซุปเปอร์มาร์เก็ตโดยไม่จำเป็นต้องซื้อสินค้า เพราะการได้มอง และเดินผ่านชั้นวางสินค้าก็ช่วยให้จิตใจสงบลง เปรียบเสมือนการได้ เดินเล่นในเมือง แต่ถูกย่อขนาดมาอยู่ภายในซุปเปอร์มาร์เก็ต

มุมมองจากนักเขียนบน Medium

อีกหนึ่งเรื่องราวที่น่าสนใจมาจากนักเขียนคนหนึ่งบนแพลตฟอร์ม Medium ซึ่งแบ่งปันมาจากประสบการณ์ส่วนตัวของเธอเกี่ยวกับการใช้ซุปเปอร์มาร์เก็ตเป็นสถานที่บำบัดจิตใจ โดยเขียนในหัวข้อ One day you're young, next thing you're going to the grocery store just to get a mental health break

วันที่ความเศร้าพาไปสู่การเดินเล่นในซุปเปอร์มาร์เก็ต

เธอเล่าถึงวันที่เธอรู้สึกหดหู่อย่างหนัก แม้จะทำกิจวัตรประจำวัน และเรียนภาษาฝรั่งเศสออนไลน์เสร็จแล้ว แต่ความรู้สึกก็ยังคงเหมือนมีเมฆหมอกสีเทาปกคลุมจิตใจอยู่ กิจกรรมที่เคยสร้างความสุขให้เธอเป็นประจำ เช่น การดู YouTube การฟังเพลง หรือการอ่านนิตยสาร ก็ดูไม่น่าสนใจเหมือนเช่นเคย

คำแนะนำที่เปลี่ยนมุมมอง

เมื่อเป็นเช่นนั้นแฟนหนุ่มของเธอก็แนะนำให้เธอออกไปข้างนอก โดยแนะนำให้ไปที่ซุปเปอร์มาร์เก็ต โดยเขาบอกว่าให้เธอซื้อน้ำส้มให้หน่อย และสัญญาว่าเมื่อกลับมาเธอจะรู้สึกดีขึ้น อย่างไรก็ตามสิ่งที่เธอนึกถึงในตอนนั้นคือมีมที่เห็นบนอินสตาแกรมเมื่อไม่กี่วันก่อนที่เขียนว่า One day youre young and the next youre going to the grocery store just to get a lil mental health break แม้เธอจะไม่อยากยอมรับในตอนแรก แต่สุดท้ายเธอก็ออกจากบ้าน

การเดินสำรวจที่สร้างแรงบันดาลใจ

เธอเริ่มต้นด้วยการเดินอย่างไร้จุดหมาย โดยพยายามหลีกเลี่ยงซุปเปอร์มาร์เก็ตให้มากที่สุด แต่ระหว่างทาง เธอเห็นร้านหนังสือขนาดใหญ่ที่ไม่ได้แวะมานานแล้ว เธอตัดสินใจเข้าไปดู แม้จะรู้สึกกังวลเล็กน้อยว่าพนักงานอาจจะรู้ว่าเธอเดินดูไปมาโดยไม่ได้ตั้งใจซื้อ แต่เธอก็เตือนตัวเองว่าการเดินดูสินค้าเป็นสิทธิ์ของเธอ

การค้นพบเล็ก ๆ ที่ช่วยให้ใจสดใส

ขณะที่เธอเดินสำรวจไปรอบ ๆ ร้าน จู่ ๆ เธอก็มีแผนขึ้นมา เธอตัดสินใจมองหาหนังสือทำอาหารเกี่ยวกับอาหารจากพืช และได้พบหนังสืออีกเล่มที่ดึงดูดความสนใจเธอมาก แม้ว่าในตอนแรกเธอลังเลว่าจะซื้อดีหรือไม่ แต่สุดท้ายเธอก็ตัดสินใจซื้อหนังสือทั้งสองเล่มกลับบ้าน

การเปลี่ยนแปลงของอารมณ์ที่ซูเปอร์มาร์เก็ต

เมื่อออกจากร้านหนังสือ โลกก็สดใส และมีความสุขอีกครั้ง เธอมุ่งหน้าไปยังซุปเปอร์มาร์เก็ต และรู้สึกตื่นเต้นกับการซื้อน้ำส้ม อย่างไรก็ตามเธอไม่เพียงแค่ซื้อน้ำส้มเท่านั้น แต่ยังเดินเล่นภายในซุปเปอร์มาร์เก็ตอย่างมีความสุขด้วย ในระหว่างทางกลับบ้านเธอก็คิดขึ้นมาว่านี่ ช่างเป็นประสบการณ์ที่น่าพึงพอใจจริง ๆ

อะไรคือปัจจัยที่ช่วยให้ฮีลใจ

เมื่อกลับถึงบ้าน เธอก็สงสัยว่าอะไรกันแน่ที่ทำให้เธอรู้สึกอารมณ์ดีขึ้นเป็นเพราะการเดิน การบำบัดด้วยการช้อปปิ้ง หรือทั้งสองอย่างรวมกัน? แต่สิ่งหนึ่งที่เธอแน่ใจคือ จุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงนี้คือการออกไปข้างนอก และเปิดใจสำรวจสิ่งรอบตัว รวมถึงการเดินเล่นในซูเปอร์มาร์เก็ตด้วย

Supermarket Therapy คือการเดินช้า ๆ อย่างมีความหมาย

เรื่องราวของเธอชี้ให้เห็นว่าเราไม่จำเป็นต้องตั้งใจไปซื้อของจริง ๆ แต่การเดินดูสินค้า และบรรยากาศภายในร้านก็สามารถส่งผลดีต่ออารมณ์ได้เช่นกัน

ความคุ้นเคยที่สร้างความรู้สึกปลอดภัย

สิ่งที่ทำให้ Supermarket Therapy น่าสนใจ คือมันไม่ได้ต้องการเป้าหมายปลายทางใด ๆ เพียงแค่การเดินช้า ๆ และสำรวจบรรยากาศก็สามารถสร้างความรู้สึกปลอดภัย และมั่นคงได้ เนื่องจากซุปเปอร์มาร์เก็ตเป็นสถานที่ที่เราคุ้นเคย

การพบปะผู้คนเล็ก ๆ ที่ช่วยลดความเหงา

นอกจากนี้แนวคิดดังกล่าวยังเปิดโอกาสให้เราได้พบปะผู้คนด้วย แม้จะเป็นเพียงการทักทายพนักงาน หรือสบตาลูกค้าคนอื่น ก็เพียงพอที่จะช่วยลดความรู้สึกโดดเดี่ยวลงได้ โดยในบางประเทศซุปเปอร์มาร์เก็ตยังเริ่มมี Slow Checkout Lanes (ช่องทางเช็คเอาท์แบบช้า) เพื่อให้ลูกค้ามีเวลาพูดคุยกับพนักงานมากขึ้นด้วย

Slow Checkout Lanes (ช่องทางเช็คเอาท์แบบช้า) คือแนวคิดการจัดช่องทางการชำระเงินในร้านค้าที่เน้นการสร้างปฏิสัมพันธ์ระหว่างพนักงานแคชเชียร์กับลูกค้า

ความใส่ใจของริมปิงที่อยากเป็นพื้นที่แห่งความสุข

จากเรื่องราวข้างต้นจะเห็นได้ว่าริมปิงเรามีความใส่ใจในแนวคิดนี้เช่นเดียวกัน เราไม่เพียงแต่ต้องการให้ลูกค้ามาช้อปปิ้งเท่านั้น แต่เราอยากให้ร้านของเราเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่ทำให้ลูกค้าของเรามีความสุขได้

บรรยากาศที่ออกแบบเพื่อการผ่อนคลายที่ริมปิง

ริมปิงซุปเปอร์มาร์เก็ตทุกสาขามีการออกแบบที่คำนึงถึงความสะดวกสบาย และสวยงาม เราคำนึงไปจนถึงเรื่องของการจัดวางสินค้าในซุปเปอร์เก็ต หากเดินเข้ามาในริมปิงแล้ว ทุกท่านจะได้พบกับโซนผลไม้ และผัก ซึ่งถูกวางเรียงรายอย่างสวยงาม เพื่อให้เกิดความรู้สึกสดชื่นจากพื้นที่สีเขียวและสีสันของผลไม้ที่สายตาสามารถเห็นได้ก่อน

นอกจากสินค้าจะถูกจัดวางอย่างสวยงามแล้ว เรายังใส่ใจไปถึงเสียงเพลงภายในร้านที่จะให้ความรู้สึกผ่อนคลาย เปิดคลอเบา ๆ ช่วยบำบัดอารมณ์ การออกแบบแสงไฟที่นอกจากแสงสว่างแล้วยังต้องสามารถให้ความรู้สึกอบอุ่นแก่ลูกค้าได้ด้วย นี่เป็นเพียงรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ริมปิงเราใส่หัวใจลงไปในทุก ๆ บริบท เราอยากให้ร้านของเราเป็นพื้นที่ที่ทุกคนสามารถแวะมาพักผ่อนและได้รับประสบการณ์ที่ดีที่สุดกลับไปค่ะ

บทความที่เกี่ยวข้อง
Louis Pasteur
ทำความรู้จัก Louis Pasteur (หลุยส์ ปาสเตอร์) นักวิทยาศาสตร์ชาวฝรั่งเศสผู้ได้ชื่อว่าเป็น บิดาแห่งการพาสเจอร์ไรซ์
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ