Fairy Bread (แฟรี่เบรด)
Fairy Bread (แฟรี่เบรด) คือขนมปังสไตล์ออสเตรเลียที่เรียบง่าย แต่เป็นที่ชื่นชอบอย่างยิ่ง โดยเฉพาะในงานปาร์ตี้สำหรับเด็ก ขนมปังชนิดนี้ทำโดยการนำขนมปังขาวมาตัดเป็นรูปทรงสามเหลี่ยม แล้วทาด้วยเนยหรือมาการีนให้ทั่ว จากนั้นโรยทับด้วยเม็ดน้ำตาลสีสันสดใส (หรือที่เรียกในออสเตรเลียว่า Hundreds and Thousands)
ต้นกำเนิดของชื่อ Fairy Bread จากโลกวรรณกรรม
ก่อนที่ Fairy Bread จะกลายเป็นชื่อขนมปังที่เราคุ้นเคยในปัจจุบัน ชื่อนี้เคยปรากฏในโลกวรรณกรรมมาก่อนแล้ว โดยคำว่า Fairy Bread มีต้นกำเนิดมาจากบทกวีในหนังสือชื่อ A Child's Garden of Verses ของ Robert Louis Stevenson นักเขียนชาวสก็อต ซึ่งตีพิมพ์ในปี ค.ศ. 1885 บทกวีนี้เป็นบทกวีที่เขียนขึ้นสำหรับเด็ก โดยสะท้อนถึงจินตนาการ และความบริสุทธิ์ของวัยเด็กบทกวี Fairy Bread และแรงบันดาลใจทางวัฒนธรรม
บทกวี Fairy Bread ของ Robert เริ่มต้นด้วยประโยคที่ว่า Come up here, O dusty feet! Here is fairy bread to eat (จงขึ้นมาที่นี่เถิด โอ้เท้าที่เปื้อนฝุ่น! มีขนมปังนางฟ้าไว้ให้กินที่นี่)บทกวีนี้บรรยายถึงโลกแห่งจินตนาการของเด็กที่เต็มไปด้วยความมหัศจรรย์ อย่างไรก็ตามแม้ว่าบทกวีจะไม่ได้สื่อถึงขนมปังที่โรยด้วยเกล็ดน้ำตาลสีสันสดใสที่เรารู้จักในปัจจุบันโดยตรง แต่การใช้คำว่า Fairy Bread ในบริบททางวรรณกรรมนี้ อาจเป็นแรงบันดาลใจสำคัญให้ชาวออสเตรเลียนำไปตั้งชื่อขนมที่เหมาะสำหรับเด็ก ๆ ในยุคต่อมา
การปรากฏตัวครั้งแรกของ Fairy Bread ในประวัติศาสตร์
การอ้างอิงที่เก่าแก่ที่สุดเกี่ยวกับ Fairy Bread ในรูปแบบของขนมที่เราคุ้นเคยในปัจจุบัน ปรากฏในหนังสือพิมพ์ Hobart Mercury ของเมืองโฮบาร์ต รัฐแทสเมเนีย ประเทศออสเตรเลีย เมื่อเดือนเมษายน ค.ศ. 1929บทความดังกล่าวรายงานเกี่ยวกับงานเลี้ยงสำหรับเด็กที่เป็นผู้ป่วยใน Consumptive Sanatorium (สถานพยาบาลสำหรับผู้ป่วยวัณโรค) ซึ่งในงานเลี้ยงนั้นมีการเสิร์ฟ Fairy Bread ให้แก่เด็ก ๆ ที่เข้ารับการรักษา
Fairy Bread สัญลักษณ์แห่งความสุขของเด็กในยุคหลังสงคราม
ในยุคนั้นวัณโรคเป็นโรคร้ายแรงที่ทำให้เด็ก ๆ ต้องพักรักษาตัวในสถานพยาบาลเป็นเวลานาน ซึ่งพวกเขาจำเป็นต้องได้รับการดูแลทั้งทางร่างกาย และจิตใจ ดังนั้นการให้ขนมหวานอย่าง Fairy Bread จึงเป็นวิธีหนึ่งในการให้กำลังใจ และสร้างความสุขให้กับเด็ก ๆ เหล่านี้สี่ปีต่อมา ในปี ค.ศ. 1933 Fairy Bread ถูกนำมาเสิร์ฟอีกครั้งในงาน Big Swan Party ซึ่งเป็นงานเลี้ยงขนาดใหญ่สำหรับเด็กที่ป่วย โดยบทความในหนังสือพิมพ์หลายสำนักระบุว่า งานนี้ต้องใช้ Fairy Bread มากถึง 160 ปอนด์ (ประมาณ 32 กิโลกรัม) เพื่อแจกจ่ายให้กับเด็ก ๆ ที่เข้าร่วมงานทั้งหมด
Fairy Bread และความสุขเล็ก ๆ ในยุคฟื้นฟูหลังสงคราม
การที่ Fairy Bread กลับมาได้รับความนิยมไม่ใช่เรื่องบังเอิญ เนื่องจากช่วงเวลานี้เป็นช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง ซึ่งสังคมออสเตรเลียกำลังฟื้นตัว และปรับตัวเข้าสู่ยุคใหม่ แม้ว่าความยากจน และความลำบากยังคงมีอยู่ แต่ประชาชนเริ่มมองหาความสุขในสิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับเด็ก ๆส่วนผสมในการทำ Fairy Bread มีราคาไม่แพง และหาได้ง่าย ครอบครัวที่มีรายได้น้อยก็สามารถทำขนมชนิดนี้ได้โดยไม่ต้องใช้เงินมาก แต่ก็สามารถสร้างความสุข และความตื่นเต้นให้กับเด็ก ๆ ได้เป็นอย่างดี
เอกลักษณ์ของ Fairy Bread และคำว่า Hundreds and Thousands
ส่วนผสมหลักที่ทำให้ Fairy Bread มีเอกลักษณ์เฉพาะคือเม็ดน้ำตาลหลากสี ซึ่งเป็นที่รู้จักในออสเตรเลียว่า Hundreds and Thousands โดยคำนี้สะท้อนถึงลักษณะของเม็ดน้ำตาลที่มีจำนวนมากมายนับร้อยนับพัน เมื่อโรยลงบนขนมปังเม็ดน้ำตาลเหล่านี้จะสวยงาม และน่าดึงดูดใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับเด็ก ๆ ที่หลงใหลในสีสันสดใสแม้ว่า Fairy Bread จะเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของออสเตรเลีย แต่ก็มีขนมหวานที่คล้ายคลึงกันในประเทศอื่น ๆ เช่น Hagelslag จากประเทศเนเธอร์แลนด์ ซึ่งประกอบด้วยขนมปังทาเนยโรยด้วยเม็ดช็อกโกแลต
Fairy Bread ขนมประจำงานเลี้ยงของเด็กออสเตรเลีย
หลังสงครามโลกครั้งที่สอง ออสเตรเลียได้เข้าสู่ยุคของความเจริญรุ่งเรือง และการเติบโตของชนชั้นกลาง ด้วยเหตุนี้การจัดงานวันเกิดสำหรับเด็ก ๆ จึงกลายเป็นกิจกรรมที่แพร่หลายในสังคมออสเตรเลีย ซึ่ง Fairy Bread ก็กลายเป็นขนมหวานที่ขาดไม่ได้ในงานเลี้ยงเหล่านี้ด้วยวิธีการทำที่เรียบง่าย Fairy Bread จึงเป็นที่นิยมอย่างมากในหมู่พ่อแม่ที่ต้องการจัดงานวันเกิดให้ลูก ๆ โดยไม่ต้องใช้เวลา หรือเงินทุนมากนัก วิธีการทำเพียงแค่ทาเนยลงบนขนมปังขาว วางด้านที่ทาเนยลงบนเม็ดน้ำตาลที่โรยไว้บนจาน กดเบาๆ เพื่อให้เม็ดน้ำตาลติดกับเนย จากนั้นตัดเป็นรูปทรงสามเหลี่ยม ก็จะได้ขนมหวานที่สวยงาม และน่ารับประทาน
การเฉลิมฉลอง Fairy Bread Day และความหมายทางวัฒนธรรม
แม้เวลาจะผ่านมาเกือบศตวรรษแต่ Fairy Bread ก็ยังคงเป็นที่นิยมอย่างต่อเนื่องในออสเตรเลีย โดยในปี ค.ศ. 2020 ได้มีการจัดตั้ง Fairy Bread Day ขึ้นเป็นครั้งแรก ซึ่งได้รับการสนับสนุนจาก Dollar Sweets ผู้ผลิตเม็ดน้ำตาลชั้นนำของออสเตรเลีย โดยมีวัตถุประสงค์ไม่เพียงแต่เป็นการเฉลิมฉลองขนมหวานที่เป็นสัญลักษณ์ทางวัฒนธรรมเท่านั้น แต่ยังมีการระดมทุน เพื่อสนับสนุนองค์กรการกุศลต่าง ๆ ในประเทศออสเตรเลียอีกด้วยFairy Bread ความเรียบง่ายที่เชื่อมคนต่างรุ่น
สำหรับชาวออสเตรเลีย Fairy Bread มีความหมายมากกว่าขนมหวานธรรมดา แต่เป็นสัญลักษณ์ของความเรียบง่าย ความสุข และความบริสุทธิ์ของวัยเด็ก นอกจากนี้ยังทำหน้าที่เป็นอาหารที่เชื่อมโยงคนรุ่นต่อรุ่น โดยคุณปู่คุณย่ายังคงทำ Fairy Bread ให้กับหลาน ๆ ด้วยสูตร และวิธีการเดียวกับที่เคยทำให้ลูก ๆ ของตนเองเมื่อหลายสิบปีก่อนการพัฒนาและความคิดสร้างสรรค์ในยุคปัจจุบัน
ปัจจุบัน Fairy Bread ได้รับการพัฒนาให้มีรูปแบบที่สร้างสรรค์มากขึ้น เช่น การใช้แม่พิมพ์ตัดขนมเป็นรูปทรงต่าง ๆ อาทิ รูปหัวใจ ดาว หรือสัตว์ต่าง ๆ ซึ่งการพัฒนานี้มีจุดประสงค์ เพื่อเพิ่มความน่าสนใจให้กับเด็ก ๆ หรือแม้แต่ผู้ใหญ่ที่ยังคงหลงรักในความเรียบง่าย และสีสันของ Fairy Breadสามารถหาซื้อวัตถุดิบต่าง ๆ ไปทำ Fairy Bread ได้ที่ริมปิงนะคะ
Tags :
บทความที่เกี่ยวข้อง
ทำความรู้จัก Chiko Roll (ชิโกะโรล) อาหารว่างของประเทศออสเตรเลียที่มีลักษณะคล้ายปอเปี๊ยะทอดของจีน
ทำความรู้จัก Meatloaf (มีทโลฟ)! อาหารจานคลาสสิกที่แฝงประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 2,000 ปี
ทำความรู้จัก Sausage Roll (ซอสเซจโรล) อาหารว่างที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในประเทศต่าง ๆ ในเครือจักรภพ