Sweet Potato Casserole (สวีท โปเตโต้ คาสเซอโรล)

Sweet Potato Casserole (สวีท โปเตโต้ คาสเซอโรล) คืออาหารที่ได้รับความนิยมอย่างมากในสหรัฐอเมริกา โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลวันขอบคุณพระเจ้า
ทำจากมันเทศที่ผ่านการต้ม หรืออบจนนุ่มแล้วบดผสมกับเนย น้ำตาล ไข่ และนม เพื่อให้ได้เนื้อสัมผัสที่เนียนนุ่มคล้ายกับคัสตาร์ด
จากนั้นจะนำไปอบแล้วโรยหน้าด้วยท็อปปิ้ง เช่น ถั่วพีแคนคลุกน้ำตาลทรายแดง หรือมาร์ชเมลโลว์

ที่มาของคำว่า Casserole

คำว่า Casserole มาจากภาษาฝรั่งเศส หมายถึง หม้อ หรือ ถาดสำหรับอบอาหาร
และในทางศิลปะการทำอาหาร คำนี้ยังหมายถึงวิธีการปรุงโดยการรวมวัตถุดิบหลายชนิดไว้ในภาชนะเดียว แล้วนำไปอบให้สุกพร้อมกัน
ซึ่งกลายเป็นหนึ่งในเทคนิคการทำอาหารที่สะดวก และเป็นที่นิยมอย่างมากในครัวตะวันตกยุคใหม่

จุดเริ่มต้นของ Sweet Potato Casserole

ก่อนที่จะมีการสร้างสรรค์เมนู Sweet Potato Casserole ในรูปแบบที่เรารู้จักกันในปัจจุบัน
เดิมทีมันเทศมักถูกปรุงในลักษณะของ มันเทศเคลือบน้ำตาล โดยหลักฐานทางประวัติศาสตร์ระบุว่าสูตรมันเทศเคลือบน้ำตาลปรากฏอยู่ในตำราอาหารอเมริกันชื่อดัง เช่น The Boston Cooking-School Cook Book (ค.ศ. 1896) โดย Fannie Farmer ซึ่งถือเป็นหนึ่งในหนังสือทำอาหารมาตรฐานที่เก่าแก่

ในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 มันเทศเริ่มได้รับความนิยมในการทำอาหารในรูปแบบที่เรียกว่า Casserole Dish (อบในถาด)
โดยวิธีการทำจะนำมันเทศบดมาผสมกับนม ไข่ เนย น้ำตาล และเครื่องเทศต่าง ๆ แล้วนำไปอบจนได้เนื้อสัมผัสที่เนียนนุ่มหอมหวาน

จุดเปลี่ยนสำคัญของ Sweet Potato Casserole

จุดเปลี่ยนสำคัญของ Sweet Potato Casserole เกิดขึ้นในปี ค.ศ. 1917
เมื่อบริษัทมาร์ชเมลโลว์ชื่อ Angelus Marshmallows ได้ว่าจ้าง Janet McKenzie Hill นักทำอาหารชื่อดังแห่ง Boston Cooking School ให้คิดค้นสูตรอาหารที่มีมาร์ชเมลโลว์เป็นส่วนประกอบ

ผลลัพธ์ที่ได้จากการร่วมมือกันครั้งนั้นคือ Sweet Potato Casserole สูตรที่มีมาร์ชเมลโลว์เป็นท็อปปิ้งด้านบน
โดยสูตรนี้กลายเป็นจุดเริ่มต้นของ Sweet Potato Casserole ในรูปแบบที่เรารู้จักกันในปัจจุบัน

ความนิยมและวัฒนธรรมการกินในภาคใต้ของสหรัฐฯ

Sweet Potato Casserole ได้รับความนิยมอย่างมาก โดยเฉพาะในภูมิภาคทางตอนใต้ของสหรัฐอเมริกา
ซึ่งเป็นแหล่งปลูกมันหวานและถั่วพีแคนรายใหญ่ที่สุดของประเทศ
เมนูนี้จึงกลายเป็นอาหารประจำเทศกาลวันขอบคุณพระเจ้า รวมถึงในงานเลี้ยงครอบครัวและโอกาสพิเศษต่าง ๆ
ที่สื่อถึง ความอบอุ่น ความอุดมสมบูรณ์ และเอกลักษณ์ของวัฒนธรรมอาหารท้องถิ่น