Sweetened Condensed Milk (นมข้นหวาน)

จุดเริ่มต้นของนมข้นหวาน เพื่อช่วยชีวิตในยุคไร้ตู้เย็น

นมข้นหวาน (Sweetened Condensed Milk) เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีต้นกำเนิดจากศตวรรษที่ 19 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่โลกยังไม่มีระบบทำความเย็นที่ทันสมัย ทำให้อาหารเน่าเสียง่าย โดยเฉพาะ นม ที่เป็นแหล่งโภชนาการสำคัญแต่เสียได้ง่าย

ในปี 1853 Gail Borden นักประดิษฐ์ชาวอเมริกัน ได้สร้างนวัตกรรมใหม่เพื่อแก้ปัญหานี้ โดยเริ่มต้นจากประสบการณ์ตรงระหว่างเดินทางทางเรือ เขาเห็นเด็กหลายคนเสียชีวิตจากการดื่มนมเสีย เขาจึงพยายามคิดค้นวิธีเก็บรักษานมให้ได้นานโดยไม่เน่าเสีย

นวัตกรรมถนอมอาหารที่เปลี่ยนโลก

Gail Borden ทดลองนำนมมาระเหยน้ำออก แล้วเติมน้ำตาลลงไปจนได้ผลิตภัณฑ์ที่มีเนื้อข้นหนืด รสหวานมัน สามารถเก็บได้นานโดยไม่ต้องแช่เย็น ซึ่งถือเป็นนวัตกรรมที่ปฏิวัติวงการอาหารในยุคนั้น

ในปี 1857 เขาจดสิทธิบัตรและก่อตั้ง Borden Dairy Company เพื่อผลิตและจำหน่ายนมข้นหวาน และในช่วงสงครามกลางเมืองสหรัฐฯ นมข้นหวานกลายเป็นสินค้าจำเป็นของทหาร เนื่องจากเก็บได้นานและพกพาสะดวก

โรงงาน Eagle และความสำเร็จเชิงพาณิชย์

ปี 1864 Gail Borden ได้เปิดโรงงานผลิตนมข้นหวานที่เมือง Brewster รัฐนิวยอร์ก ภายใต้ชื่อแบรนด์ Eagle ซึ่งกลายเป็นโรงงานนมข้นหวานที่ทันสมัยที่สุดในยุคนั้น และประสบความสำเร็จอย่างมากทั้งในเชิงคุณภาพและยอดขาย

การแพร่กระจายสู่เอเชีย โดยเฉพาะในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ปลายศตวรรษที่ 19 นมข้นหวานเริ่มเข้าสู่ประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก โดยเฉพาะในเขตร้อนอย่างเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งไม่มีตู้เย็นใช้แพร่หลาย การที่นมข้นหวานสามารถเก็บไว้ได้นานจึงตอบโจทย์มาก

• ในเวียดนาม นำมาใช้ชงกาแฟ (Cà phê sữa đá)
• ในไทย เริ่มใช้ในยุครัชกาลที่ 5 จากวัฒนธรรมตะวันตก และต่อมาถูกประยุกต์ในขนมไทย เช่น สังขยา ทองหยิบ ทองหยอด

ปรับสูตรเพื่อตอบโจทย์ยุคใหม่

ในยุคปัจจุบันที่ผู้บริโภคใส่ใจสุขภาพมากขึ้น นมข้นหวานจึงถูกพัฒนาให้หลากหลาย เช่น

• สูตรไขมันต่ำ
• สูตรไม่มีน้ำตาล
• สูตรใช้วัตถุดิบจากพืชหรือ non-dairy
• ไม่ว่าจะเป็นกาแฟ ขนมปัง หรือขนมไทย นมข้นหวานยังคงเป็นวัตถุดิบคู่ครัวที่เติมความหวานให้ชีวิต