แชร์

Old Pulteney (โอลด์ พุลท์นีย์)

ในโลกของสุราประเภทวิสกี้ มีเพียงไม่กี่แบรนด์ที่จะสามารถบอกเล่าเรื่องราวที่ผูกพันกับธรรมชาติและภูมิประเทศได้อย่างลึกซึ้งเท่ากับ Old Pulteney (โอลด์ พุลท์นีย์) Single Malt Whisky จากสกอตแลนด์ โดดเด่นด้วยกลิ่นอายของท้องทะเลอันเป็นเอกลักษณ์ จนได้รับฉายาว่า The Maritime Malt หรือ มอลต์แห่งท้องทะเล ฉายานี้สะท้อนถึงตำแหน่งที่ตั้งอันเป็นเอกลักษณ์ของโรงกลั่น ซึ่งอยู่ติดกับทะเลในเมือง Wick ภูมิภาค Caithness ดินแดนเหนือสุดของ Highlands ที่เต็มไปด้วยลมทะเลและบรรยากาศอันบริสุทธิ์ บทความนี้จะพาคุณย้อนรอยประวัติศาสตร์อันยาวนานของ Old Pulteney ตั้งแต่จุดกำเนิด การผลิตอันเป็นเอกลักษณ์ การเดินทางผ่านกาลเวลา และการก้าวสู่การเป็น Single Malt ระดับโลกที่กวาดรางวัลมาแล้วมากมาย

จุดเริ่มต้นและการปฏิวัติกฎหมายสรรพสามิต

โรงกลั่น Old Pulteney ก่อตั้งขึ้นในปี 1826 โดย James Henderson ผู้บุกเบิกในอุตสาหกรรมวิสกี้ ณ เมือง Wick ซึ่งในอดีตเคยเป็นเมืองท่าประมงที่คึกคักและใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในยุโรป โรงกลั่นแห่งนี้ตั้งชื่อตาม Sir William Pulteney นักการเมืองผู้มีชื่อเสียงชาวสกอต ผู้ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาเมือง Wick และพื้นที่โดยรอบในฐานะ "บิดาแห่ง Wick" ซึ่งเปรียบเสมือนผู้ก่อตั้งเมืองสมัยใหม่ ที่เห็นความสำคัญของการพัฒนาท่าเรือและอุตสาหกรรมประมง ทำให้เมืองแห่งนี้เติบโตอย่างรวดเร็ว

การก่อตั้งโรงกลั่น Old Pulteney เกิดขึ้นภายหลังจากมีการนำ กฎหมายสรรพสามิต (Excise Act) ใหม่มาใช้ในปี 1823 ซึ่งถือเป็นการปฏิรูปครั้งสำคัญในอุตสาหกรรมวิสกี้ของสกอตแลนด์ ในอดีต สกอตแลนด์มีกฎหมายการเรียกเก็บภาษีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่สูงมาก ทำให้ผู้ผลิตวิสกี้จำนวนมากต้องหันไปผลิตแบบผิดกฎหมายกันอย่างลับๆ หรือที่เรียกว่า Moonshine แต่เมื่อกฎหมายได้รับการเปลี่ยนแปลง โดยมีการลดอัตราภาษีลงอย่างมีนัยสำคัญ ก็ทำให้เกิดการเปิดโรงกลั่นที่ถูกกฎหมายขึ้นมามากมายทั่วประเทศ และ Old Pulteney ก็เป็นหนึ่งในโรงกลั่นที่กำเนิดขึ้นภายใต้กฎหมายใหม่นี้ ซึ่งเป็นก้าวสำคัญที่ทำให้การผลิตวิสกี้ของสกอตแลนด์เข้าสู่ยุคอุตสาหกรรมอย่างเต็มตัว

เอกลักษณ์แห่ง The Maritime Malt : วัตถุดิบและการบ่ม

Old Pulteney เป็นโรงกลั่นที่มีชื่อเสียงในการผลิต Single Malt ที่โดดเด่นด้วยคุณสมบัติเฉพาะตัว ซึ่งได้รับอิทธิพลอย่างลึกซึ้งจากสภาพแวดล้อมทางทะเล

  • มอลต์ข้าวบาร์เลย์คุณภาพสูง : โรงกลั่นเลือกใช้มอลต์ข้าวบาร์เลย์คุณภาพเยี่ยมจากสหราชอาณาจักร ซึ่งเป็นวัตถุดิบหลักในการผลิตวิสกี้
    น้ำจากทะเลสาบ Loch Hempriggs: น้ำที่ใช้ในการผลิตวิสกี้มาจากทะเลสาบ Loch Hempriggs ซึ่งอยู่ห่างจากโรงกลั่นประมาณ 4 กิโลเมตร น้ำบริสุทธิ์นี้มีบทบาทสำคัญในการสร้างรสชาติพื้นฐานของวิสกี้
  • อิทธิพลทางทะเล : สิ่งที่ทำให้ Old Pulteney แตกต่างอย่างแท้จริงคือ อิทธิพลทางทะเลที่แทรกซึมอยู่ในทุกแง่มุมของการผลิต ตั้งแต่กระบวนการหมักไปจนถึงการบ่มในโกดังที่อยู่ติดทะเล แรงลมทะเลและไอเค็มจากมหาสมุทรเหนือที่พัดผ่านเข้ามาในโรงกลั่น และซึมซับเข้าไปในถังบ่มวิสกี้ เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ Old Pulteney มีรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ กลมกล่อม หอมหวานของผลไม้ และวานิลลา ผสานกับกลิ่นอายของท้องทะเลที่หอมกรุ่นและเค็มปะแล่ม อันเป็นที่มาของฉายา The Maritime Malt

นอกจากอิทธิพลทางภูมิศาสตร์แล้ว การบ่ม Old Pulteney ก็มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวเช่นกัน โดยกระบวนการบ่มจะใช้ถังไม้โอ๊กเป็นหลัก ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็น ถังไม้โอ๊กอเมริกันที่เคยบรรจุเบอร์เบิ้นมาก่อน (Ex-Bourbon Casks) ถังเหล่านี้มีส่วนช่วยให้วิสกี้มีรสชาติวานิลลา คาราเมล และความหวานอันเป็นเอกลักษณ์ แต่ไม่เพียงแค่นั้น ยังมีการใช้ถังไม้โอ๊กชนิดอื่นๆ ด้วย เช่น ถังไม้โอ๊กเชอร์รี่จากสเปน (Spanish Sherry Casks) ซึ่งจะช่วยเพิ่มความซับซ้อนของรสชาติ ด้วยกลิ่นผลไม้แห้ง เครื่องเทศ และความหวานที่ลุ่มลึกมากยิ่งขึ้น

ระยะเวลาการบ่ม Old Pulteney แต่ละรุ่นจะแตกต่างกันออกไปขึ้นอยู่กับสูตรและความต้องการของผู้ผลิต แต่โดยทั่วไปแล้ว Old Pulteney จะถูกบ่มเป็นระยะเวลานานหลายปี เพื่อให้ได้รสชาติที่นุ่มนวล กลมกล่อม และมีมิติความซับซ้อนที่สมบูรณ์แบบ

ช่วงเวลาแห่งความท้าทายและการฟื้นคืนชีพ

ในช่วงแรก Old Pulteney ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็วในเมือง Wick และพื้นที่โดยรอบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในหมู่ชาวประมงและผู้คนที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมทางทะเลของเมือง Wick ซึ่งเคยเป็นเมืองท่าประมงที่คึกคักแห่งหนึ่งในยุโรป

อย่างไรก็ตาม ในช่วงปี 1930 การผลิต Old Pulteney ก็ต้องหยุดลงอย่างกะทันหัน เนื่องจากเกิดเหตุการณ์สำคัญสองประการพร้อมกัน นั่นคือ ภาวะเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่ (Great Depression) ซึ่งส่งผลกระทบไปทั่วโลก และที่สำคัญคือมีการออก กฎหมายห้ามจำหน่ายสุรา (Prohibition) ในเมือง Wick เอง ซึ่งเป็นเมืองที่แห้งแล้ง ห้ามดื่มแอลกอฮอล์ตามกฎหมายท้องถิ่น เหตุการณ์ทั้งสองนี้ทำให้โรงกลั่นถูกปิดตัวลงไปเป็นเวลาเกือบ 2 ทศวรรษ ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ท้าทายอย่างยิ่งสำหรับ Old Pulteney

ในปี 1951 เมื่อเศรษฐกิจเริ่มฟื้นฟูและกฎหมาย Prohibition ใน Wick ถูกยกเลิก โรงกลั่น Old Pulteney ก็ได้เปิดทำการอีกครั้ง โดยขณะนั้นตกอยู่ภายใต้การดูแลของ Bertie Cumming ซึ่งเป็นเจ้าของโรงกลั่น Balblair ในสหราชอาณาจักร การเปิดทำการอีกครั้งนี้ถือเป็นจุดเริ่มต้นใหม่ของโรงกลั่น Old Pulteney

จากนั้นในปี 1955 เขาก็ได้ขายโรงกลั่น Old Pulteney ให้กับ Hiram Walker & Sons ซึ่งเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเครื่องดื่มจากแคนาดา ภายใต้การดูแลของ Hiram โรงกลั่นได้รับการฟื้นฟูให้มีความทันสมัยมากขึ้น โดยยังคงใช้กรรมวิธีการผลิตแบบดั้งเดิมที่เป็นตัวกำหนดลักษณะเฉพาะของ Old Pulteney และต่อมาในปี 1961 ก็ถูกซื้อกิจการอีกครั้งโดย Allied Breweries บริษัทเบียร์ยักษ์ใหญ่ของสหราชอาณาจักร

การเติบโตสู่ระดับโลกภายใต้การนำของ Inver House Distillers และ ThaiBev

ความผันผวนของความเป็นเจ้าของมาถึงจุดเปลี่ยนสำคัญในปี 1995 จนถึงปัจจุบัน Old Pulteney ก็ได้กลายมาเป็นส่วนหนึ่งของ Inver House Distillers ซึ่งเป็นบริษัทย่อยในเครือของ ThaiBev หนึ่งในบริษัทเครื่องดื่มที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ การที่ Old Pulteney ได้มาอยู่ภายใต้การดูแลของ Inver House Distillers และ ThaiBev ถือเป็นช่วงเวลาที่สำคัญอย่างยิ่ง เพราะภายใต้การบริหารจัดการที่แข็งแกร่งและวิสัยทัศน์ที่กว้างไกล Old Pulteney ก็เริ่มได้รับการยอมรับในระดับโลกอย่างแท้จริง และขยายตลาดออกไปได้อย่างกว้างขวาง

ในยุคสมัยใหม่ Old Pulteney ได้ขยายขอบเขตการผลิตอย่างต่อเนื่อง โรงกลั่นเริ่มผลิตเครื่องดื่มที่บ่มไว้หลากหลายรูปแบบ เพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดที่หลากหลายและผู้ที่ชื่นชอบ Single Malt Whisky ที่แตกต่างกันไป อาทิ Single Malt อายุ 12 ปี, 17 ปี และ 21 ปี ซึ่งได้รับความนิยมอย่างมาก โดยแต่ละแบบต่างก็ให้ประสบการณ์การดื่มที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ด้วยรสชาติที่แตกต่างกันตามระยะเวลาและประเภทของถังบ่ม

รางวัลและการยอมรับระดับโลก

เรื่องราวความสำเร็จของ Old Pulteney มาพร้อมกับ รางวัลการันตีคุณภาพ ที่สะท้อนถึงความเป็นเลิศและมาตรฐานระดับโลก ซึ่งตลอดหลายปีที่ผ่านมา Old Pulteney ได้รับรางวัลอันทรงเกียรติมากมาย อาทิ

  • Old Pulteney รุ่น 1989 Vintage: ได้รับเลือกเป็น Worlds Best Single Malt Whisky จาก World Whiskies Awards 2016 ซึ่งเป็นหนึ่งในรางวัลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในวงการวิสกี้
  • Old Pulteney รุ่น 21 ปี : ได้รับรางวัล World Whisky of the Year ในหนังสือ Whisky Bible 2012 โดย Jim Murray ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านวิสกี้ระดับโลก
  • Old Pulteney รุ่น 12 ปี : ได้รับรางวัล เหรียญทอง จาก International Wine and Spirit Competition เมื่อปี 2006 ซึ่งเป็นเครื่องยืนยันถึงคุณภาพที่สม่ำเสมอของวิสกี้รุ่นหลัก

วิธีการดื่มและการจับคู่กับอาหาร


Old Pulteney สามารถดื่มได้หลากหลายรูปแบบ เพื่อให้สัมผัสรสชาติและกลิ่นอายที่แตกต่างกันไป

  • ดื่มแบบ Neat (ไม่ผสม): เป็นวิธีที่นิยมที่สุด เพื่อสัมผัสรสชาติที่แท้จริงและซับซ้อนของวิสกี้
  • On the Rocks (ใส่น้ำแข็ง): ช่วยลดความเข้มข้นลงเล็กน้อยและดึงรสชาติบางอย่างออกมา
  • เติมน้ำเล็กน้อย : การเติมน้ำเปล่าลงไปเพียงเล็กน้อย (เพียงไม่กี่หยด) สามารถช่วยเปิดกลิ่นและรสชาติที่ซับซ้อนของวิสกี้ให้ชัดเจนยิ่งขึ้น โดยไม่ทำให้เจือจางมากเกินไป
  • เป็นส่วนผสมในค็อกเทล: Old Pulteney ยังนิยมใช้เป็นส่วนผสมในค็อกเทลคลาสสิกและร่วมสมัยได้หลายชนิด เช่น Old Fashioned, The Caithness Cocktail, Smoky Rob Roy, The Huddart Highball และ The Penicillin ซึ่งเป็นการเพิ่มมิติให้กับเครื่องดื่ม

การจับคู่ Old Pulteney กับอาหาร นั้นขึ้นอยู่กับรุ่นและรสชาติของ Old Pulteney แต่โดยทั่วไปแล้ว Old Pulteney ที่มีกลิ่นอายทะเลจะเข้ากันได้ดีกับ:

  • อาหารทะเล: โดยเฉพาะหอยเชลล์ กุ้ง หรือปลาแซลมอนรมควัน
  • เนื้อสัตว์รมควัน: กลิ่นรมควันจะเข้ากันได้ดีกับความซับซ้อนของวิสกี้
  • ชีสรสเข้มข้น: เช่น ชีสเชดดาร์ หรือชีสบลูชีส ซึ่งจะช่วยดึงรสชาติของวิสกี้ออกมาได้อย่างลงตัว

ปัจจุบัน Old Pulteney ได้รับการยอมรับว่าเป็นหนึ่งในผู้ผลิต Single Malt Whisky ที่ดีที่สุดของสกอตแลนด์ และได้รับความนิยมไปทั่วโลก นอกจากนี้ โรงกลั่นยังเปิดให้ผู้สนใจเข้าเยี่ยมชมและสัมผัสบรรยากาศของโรงกลั่นเก่าแก่ พร้อมทั้งเรียนรู้ขั้นตอนการผลิตตั้งแต่ต้นจนจบ ซึ่งเป็นประสบการณ์ที่น่าประทับใจสำหรับผู้ที่หลงใหลในวิสกี้อย่างแท้จริง



บทความที่เกี่ยวข้อง
Duvel Tripel Hop (ดูเวล ทริปเปิล ฮอปส์)
ทำความรู้จัก Duvel Tripel Hop (ดูเวล ทริปเปิล ฮอปส์) เบียร์สไตล์ Belgian Strong Pale Ale ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวจากโรงเบียร์ Duvel Moortgat ประเทศเบลเยียม
Trappist Beer (แทรปพิสท์ เบียร์)
Trappist Beer (แทรปพิสท์ เบียร์) : น้ำเมาศักดิ์สิทธิ์ที่ประดิษฐ์ขึ้นด้วยมือของนักบวช
Cognac (คอนญัก) และ Brandy (บรั่นดี)
Cognac (คอนญัก) และ Brandy (บรั่นดี) ต่างกันอย่างไร
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ