แชร์

Osso Buco (ออสโซบูโก)

Osso Buco (ออสโซบูโก) อาหารอิตาเลียนจานเด็ดจากเมืองมิลาน ที่ไม่ใช่แค่เนื้อตุ๋นธรรมดา ๆ แต่คือสัญลักษณ์ของความประณีตและรสชาติอันเป็นเอกลักษณ์ ถ้าคุณคือสายเนื้อตัวจริงและหลงใหลในอาหารอิตาเลียนแท้ ๆ เตรียมตัวให้พร้อม เพราะวันนี้เราจะพาคุณไปเจาะลึกทุกเรื่องราวของ Osso Buco พร้อมบอกว่าทำไมเมนูนี้ถึงเป็นขวัญใจของคนทั่วโลก!

คำว่า "Osso Buco" มีความหมายตรงตัวว่า "กระดูกที่มีรู" ซึ่งสื่อถึงเอกลักษณ์ของเนื้อวัวส่วน Shank หรือเนื้อน่องติดกระดูกที่มีไขกระดูกอยู่ตรงกลาง ความพิเศษของไขกระดูกนี่แหละค่ะ ที่ทำให้เมนูนี้มีรสชาติเข้มข้น กลมกล่อม และมีสัมผัสที่ชุ่มฉ่ำเป็นพิเศษเมื่อนำไปเคี่ยวอย่างช้า ๆ

Osso Buco : ความพิเศษที่ส่งต่อจากอดีตสู่ปัจจุบัน

Osso Buco มีต้นกำเนิดจากทางตอนเหนือของเมืองมิลาน ประเทศอิตาลี เป็นเมนูที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายและมักจะถูกเสิร์ฟในโอกาสพิเศษ รวมถึงงานเฉลิมฉลองต่าง ๆ ด้วยความที่เสิร์ฟในปริมาณที่ค่อนข้างมาก ทำให้ Osso Buco เป็นเมนูที่เหมาะสำหรับการแบ่งปันและรับประทานร่วมกันกับกลุ่มเพื่อนหรือครอบครัว บรรยากาศอบอุ่นของการแบ่งปันอาหารจานนี้จึงเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ Osso Buco มีเสน่ห์ไม่แพ้รสชาติ

สูตร Osso Buco แบบดั้งเดิมนั้นถูกบันทึกไว้ในคู่มือการทำอาหารชื่อดัง La Scienza in Cucina e l'Arte di Mangiar Bene ของ Pellegrino Artusi ตั้งแต่ปี 1891 ซึ่งเป็นการตอกย้ำถึงคุณค่าทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของอาหารจานนี้ ความคลาสสิกของ Osso Buco แบบ Milanese ดั้งเดิมนั้นคือการไม่ใส่มะเขือเทศ แต่จะเน้นรสชาติจากเนื้อวัวและเครื่องเทศที่ใช้ในการเคี่ยวเป็นหลัก

อย่างไรก็ตาม เมนูนี้ก็ได้มีการปรับเปลี่ยนไปตามยุคสมัยและรสนิยม โดย Osso Buco ในปัจจุบันนั้นสามารถแบ่งออกได้เป็นสองแบบหลัก ๆ คือ แบบดั้งเดิมที่ไม่ใส่มะเขือเทศ และ แบบสมัยใหม่ที่มีการใส่มะเขือเทศ ลงไปเพื่อเพิ่มมิติของรสชาติและความเปรี้ยวอมหวาน ซึ่งจะช่วยตัดเลี่ยนและเพิ่มความอร่อยมากยิ่งขึ้น สำหรับใครที่ไม่ชอบมะเขือเทศก็สามารถเลือกสูตรดั้งเดิม หรือไม่ใส่มะเขือเทศลงไปก็ได้เช่นกันค่ะ

เคล็ดลับความอร่อย : Gremolata และเนื้อ Shank

หัวใจสำคัญที่ทำให้ออสโซบูโก้แบบดั้งเดิมโดดเด่นและมีรสชาติเป็นเอกลักษณ์คือ Gremolata (เกรโมลาตา) ซึ่งเป็นเครื่องปรุงรสที่ทำมาจากผักชีฝรั่งสับ กระเทียมสับ และเปลือกมะนาวขูดละเอียด เมื่อ Osso Buco เคี่ยวจนนุ่มได้ที่แล้ว ก่อนเสิร์ฟจะต้องโรย Gremolata ลงไปบนเนื้อ เพื่อเพิ่มกลิ่นหอมสดชื่น รสชาติที่ซับซ้อน และช่วยตัดเลี่ยนจากความเข้มข้นของเนื้อได้อย่างลงตัว เกรโมลาตาจึงเปรียบเสมือน เวทมนตร์ ที่เติมเต็มให้ Osso Buco สมบูรณ์แบบ

ส่วนสำคัญอีกอย่างที่ขาดไม่ได้คือ เนื้อวัวส่วน Shank หรือเนื้อน่องลายติดกระดูก ซึ่งเป็นเนื้อส่วนที่มีเอ็นแทรกอยู่เยอะและมีปริมาณเจลาตินสูง เมื่อนำมาตุ๋นเป็นเวลานาน ความเป็นเจลาตินในเนื้อจะค่อย ๆ ละลายออกมา ทำให้เนื้อนุ่มเปื่อยละลายในปาก และที่สำคัญที่สุดคือ น้ำจากไขกระดูกที่อยู่ในกระดูกจะค่อย ๆ ซึมออกมาผสมผสานกับน้ำซุป ทำให้ได้รสชาติที่เข้มข้น กลมกล่อม และมีความชุ่มฉ่ำอย่างไม่น่าเชื่อ

เสิร์ฟคู่กับอะไรถึงจะอร่อย?

โดยทั่วไปแล้ว Osso Buco นิยมรับประทานคู่กับ Risotto alla Milanese (รีซอตโต อัลลา มิลานีส) ซึ่งเป็นข้าวริซอตโตที่ปรุงรสด้วยหญ้าฝรั่น ทำให้มีสีเหลืองทองและรสชาติหอมมัน ซึ่งเข้ากันได้ดีกับความเข้มข้นของ Osso Buco อย่างไรก็ตาม หากคุณต้องการลองรับประทานกับเครื่องเคียงอื่น ๆ ก็สามารถทำได้เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นมันบด, ถั่วบด, หรือ Polenta (โพเลนต้า) ซึ่งเป็นอาหารจากข้าวโพดบดที่ให้เนื้อสัมผัสคล้ายโจ๊ก ถือเป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจไม่แพ้กัน

หากคุณเป็นคนรักเนื้อวัวที่กำลังมองหาประสบการณ์การลิ้มลองรสชาติใหม่ ๆ Osso Buco คือเมนูที่ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง ลองหาโอกาสลิ้มลองสักครั้ง แล้วคุณอาจจะค้นพบว่านี่คืออาหารจานโปรดของคุณไปเลยก็ได้!


บทความที่เกี่ยวข้อง
Songpyeon (ซงพยอน, 송편)
ทำความรู้จัก Songpyeon (ซงพยอน, 송편) ขนมต็อกพื้นเมืองของเกาหลี
Kimchi Bokkeumbap (กิมจิ บกกึมบับ, 김치볶음밥)
ทำความรู้จัก Kimchi Bokkeumbap (กิมจิ บกกึมบับ, 김치볶음밥) หรือข้าวผัดกิมจิอาหารจานยอดนิยมในประเทศเกาหลีใต้
Hotteok (ฮอตต็อก, 호떡)
ทำความรู้จัก Hotteok (ฮอตต็อก, 호떡) แพนเค้กสไตล์เกาหลีที่เป็นสตรีทฟู้ดยอดนิยม
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ