แชร์

น้ำแข็งทรงกลม

ในโลกของเครื่องดื่ม ไม่ว่าจะเป็นสายค็อกเทลหรือคอกาแฟ หลายคนคงคุ้นเคยกับ "น้ำแข็งทรงกลม" ที่ไม่ใช่แค่ความสวยงาม แต่ยังเป็นกุญแจสำคัญที่ช่วยยกระดับประสบการณ์การดื่มของคุณ เคยสงสัยไหมคะว่าทำไมน้ำแข็งทรงกลมถึงได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย และมีทฤษฎีที่บอกว่าน้ำแข็งทรงกลมละลายช้ากว่ารูปทรงอื่น ๆ เป็นความจริงหรือไม่? วันนี้ Rimping Supermarket มีคำตอบและเรื่องราวน่าสนใจมาแบ่งปันค่ะ

ต้นกำเนิดและความนิยมของน้ำแข็งทรงกลม

ย้อนกลับไปในช่วงต้นศตวรรษที่ 19 มนุษย์เริ่มนำก้อนน้ำแข็งขนาดใหญ่จากแหล่งธรรมชาติมาใช้งาน ซึ่งในยุคนั้นการแบ่งน้ำแข็งออกเป็นชิ้นเล็ก ๆ ยังคงเป็นวิธีดั้งเดิมคือการทุบหรือสับ ซึ่งทำให้ได้น้ำแข็งรูปทรงไม่สม่ำเสมอ เน้นการใช้งานเป็นหลัก ไม่ได้คำนึงถึงความสวยงามเหมือนในปัจจุบัน

การเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญเกิดขึ้นในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 เมื่อบาร์เทนเดอร์ชาวญี่ปุ่นที่ทำงานในบาร์ของสหรัฐอเมริกา ได้เริ่มนำ "ก้อนน้ำแข็งทรงกลม" มาใช้ในเครื่องดื่มค็อกเทลที่เสิร์ฟให้กับลูกค้า และผลตอบรับก็เป็นไปในทางบวกอย่างน่าทึ่ง! ลูกค้าต่างชื่นชอบเพราะน้ำแข็งทรงกลมละลายช้ากว่าน้ำแข็งรูปทรงอื่น ๆ อย่างเห็นได้ชัด ทำให้ค็อกเทลของพวกเขายังคงรสชาติเข้มข้น ไม่เจือจาง แม้จะจิบนานแค่ไหนก็ตาม นี่คือจุดเริ่มต้นที่ทำให้ความนิยมของน้ำแข็งทรงกลมเริ่มแพร่หลาย

ในเวลาต่อมา บริษัทต่าง ๆ ก็เริ่มผลิตและจำหน่ายแม่พิมพ์น้ำแข็งทรงกลมออกสู่ตลาด และเมื่อเข้าสู่ช่วงต้นศตวรรษที่ 21 ซึ่งเป็นยุคปัจจุบัน ความนิยมของน้ำแข็งทรงกลมก็เติบโตอย่างก้าวกระโดด ส่วนหนึ่งมาจากกระแสของ "คราฟต์ค็อกเทล" ที่เน้นความประณีตและคุณภาพของเครื่องดื่ม ทำให้บาร์เทนเดอร์ชั้นนำหันมาใช้น้ำแข็งทรงกลมในค็อกเทลหลากหลายเมนู และความนิยมนี้ก็ไม่ได้จำกัดอยู่แค่ในวงการบาร์เท่านั้น แต่ยังขยายไปสู่คาเฟ่ต่าง ๆ ที่เริ่มนำน้ำแข็งทรงกลมมาใช้กับเมนูกาแฟพิเศษ เพื่อให้ลูกค้าได้สัมผัสกับประสบการณ์การดื่มที่เหนือระดับ

ทำไมน้ำแข็งทรงกลมถึงละลายช้ากว่า?

เหตุผลสำคัญที่ทำให้น้ำแข็งทรงกลมได้รับความนิยมอย่างมาก ไม่ใช่แค่เรื่องของความสวยงามและทันสมัยเท่านั้น แต่ยังเป็นเพราะคุณสมบัติทางวิทยาศาสตร์ที่ทำให้มัน "ละลายช้ากว่า" น้ำแข็งรูปทรงอื่น ๆ ที่เราคุ้นเคยกัน เช่น น้ำแข็งสี่เหลี่ยมหรือน้ำแข็งหลอด

ทฤษฎีนี้มาจากหลักการของ อัตราส่วนพื้นที่ผิวต่อปริมาตร (Surface Area to Volume Ratio) น้ำแข็งทรงกลมมีอัตราส่วนพื้นที่ผิวต่อปริมาตรที่ น้อยที่สุด เมื่อเทียบกับรูปทรงอื่น ๆ ที่มีปริมาตรเท่ากัน ลองนึกภาพดูว่าพื้นผิวของน้ำแข็งคือส่วนที่สัมผัสกับของเหลวและความร้อนในแก้ว ยิ่งพื้นผิวสัมผัสมากเท่าไหร่ น้ำแข็งก็จะยิ่งดูดซับความร้อนได้มากและละลายเร็วขึ้นเท่านั้น

ด้วยรูปทรงที่กลมมน ไร้เหลี่ยมคม น้ำแข็งทรงกลมจึงมีพื้นที่ผิวที่สัมผัสกับเครื่องดื่มน้อยที่สุด ซึ่งหมายความว่ามันจะดูดซับความร้อนจากเครื่องดื่มและสิ่งแวดล้อมได้ช้าลง ส่งผลให้น้ำแข็งละลายช้าลง และเครื่องดื่มของคุณก็จะยังคงความเย็นสดชื่น โดยที่รสชาติไม่ถูกเจือจางจนเสียอรรถรสไปก่อนเวลาอันควร

ดังนั้น หากคุณเป็นคนหนึ่งที่ชื่นชอบเครื่องดื่มที่ได้รับการสร้างสรรค์มาอย่างพิถีพิถัน และต้องการคงรสชาติที่สมบูรณ์แบบไว้ให้ได้นานที่สุด โดยที่ยังคงความเย็นสดชื่นไว้เสมอ น้ำแข็งทรงกลม คือตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมที่จะช่วยยกระดับประสบการณ์การดื่มของคุณให้สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้นค่ะ

คุณสามารถหาซื้ออุปกรณ์ทำน้ำแข็งทรงกลมและวัตถุดิบอื่น ๆ สำหรับเครื่องดื่มแก้วโปรดของคุณได้ที่ริมปิงทุกสาขานะคะ

Tags :

บทความที่เกี่ยวข้อง
Food Coloring (สีผสมอาหาร)
ย้อนรอยประวัติศาสตร์ Food Coloring (สีผสมอาหาร) จากธรรมชาติ สู่สารสังเคราะห์ และการกลับคืนสู่ธรรมชาติ
Agar Agar (อาก้าอาก้า)
ทำความรู้จัก Agar Agar (อาก้าอาก้า) ภูมิปัญญาญี่ปุ่นสู่ส่วนผสมมหัศจรรย์ในโลกอาหาร
Juniper (จูนิเปอร์)
ทำความรู้จัก Juniper (จูนิเปอร์) สมุนไพรตะวันตกหนึ่งในส่วนผสมสำหรับทำเหล้าจิน
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ