Malibu (มาลิบู)

Malibu (มาลิบู) เป็นเหล้ารัมปรุงแต่ง (Flavored Rum) รสมะพร้าว ที่ผลิตจากเหล้ารัมขาวผสมกับน้ำมะพร้าว นิยมดื่มแบบผสมค็อกเทลหลากหลายชนิด เช่น Piña Coladas, Malibu Watermelon, Malibu Peach Rum, และ Malibu Sunrise โดยมีแอลกอฮอล์ประมาณ 21% ABV วันนี้ Rimping Supermarket จะพาคุณไปทำความรู้จักกับเหล้ารัมมะพร้าวที่ชวนให้นึกถึงชายหาดและทะเลสีครามกันค่ะ

จุดกำเนิดจากเกาะบาร์เบโดส: ไอเดียจากค็อกเทล Piña Coladas (ค.ศ. 1978)

เรื่องราวของ Malibu เริ่มต้นขึ้นที่ เกาะบาร์เบโดส (Barbados) ในทะเลแคริบเบียน ซึ่งเป็นเกาะที่มีชื่อเสียงยาวนานด้านการผลิตเหล้ารัม Malibu ถูกคิดค้นขึ้นมาในปี 1978 โดย Tom Jago (ทอม จาโก) ผู้บริหารบริษัทเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ International Distillers & Vintners (IDV) ในอังกฤษ เดิมที Malibu มีชื่อเรียกว่า Coco Rico แต่ในปี 1980 ก็ถูกเปลี่ยนมาใช้ชื่อ Malibu

แนวคิดการผลิต Malibu เกิดจาก Tom Jago ต้องการทำส่วนผสมสำหรับค็อกเทล Piña Coladas (พีน่า โคลาด้า) ให้ง่ายขึ้น เนื่องจากการทำค็อกเทลชนิดนี้ในอดีตจะมีความซับซ้อนมาก ต้องใช้ส่วนผสมหลายอย่างรวมกัน รวมถึงน้ำมะพร้าวด้วย ด้วยเหตุนี้เขาจึงเกิดไอเดียผลิตเหล้ารัมผสมน้ำมะพร้าวขึ้นมา เพื่อใช้เป็นส่วนผสมสำหรับทำค็อกเทลชนิดนี้โดยเฉพาะ แต่ต่อมาก็ถูกนำมาใช้เป็นส่วนผสมของค็อกเทลชนิดอื่นๆ มากมาย

Malibu ถูกกลั่นครั้งแรกที่ โรงกลั่นเหล้ารัม West Indies ในเกาะบาร์เบโดส แต่ปัจจุบันมักจะผลิตในแคนาดาเป็นส่วนใหญ่ และอาจจะมีบางส่วนที่ผลิตในสหรัฐอเมริกา และสเปน

เอกลักษณ์ขวดขาว โลโก้ปาล์ม และสโลแกนชวนฝัน

หลังจากเปิดตัว Malibu ก็ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็วในสหรัฐอเมริกา และยุโรป ซึ่งบริษัทได้ทำการทำตลาดโดยมุ่งเน้นให้เห็นถึงจิตวิญญาณแห่งทะเลแคริบเบียนที่ซึ่งเป็นจุดกำเนิดของเหล้ารัม โดย Malibu นั้นโดดเด่นด้วย ขวดสีขาวอันเป็นเอกลักษณ์ และโลโก้รูปต้นปาล์ม ที่ชวนให้นึกถึงภาพชายหาด และน้ำทะเลสีฟ้าคราม พร้อมกับสโลแกน It comes from paradise and tastes like heaven (มาจากสวรรค์และรสชาติเหมือนสวรรค์)

สิ่งที่ทำให้ Malibu แตกต่างจากเหล้ารัมชนิดอื่นๆ คือ กลิ่นหอมของมะพร้าวที่ชัดเจน มีรสที่ติดหวาน นุ่มนวลไม่บาดคอ อีกทั้งยังมีปริมาณแอลกอฮอล์ต่ำกว่าเหล้ารัมทั่วไปอีกด้วย ด้วยเหตุนี้ Malibu จึงดึงดูดใจนักดื่มได้หลากหลาย

การขยายรสชาติ และความนิยมระดับโลก (ทศวรรษ 1990 - ปัจจุบัน)

ในช่วงปี 1990 Malibu ได้รับความสนใจเพิ่มขึ้นกลายเป็นเครื่องดื่มประจำชายหาดหลายแห่งด้วยรสชาติที่สดชื่นเป็นเอกลักษณ์ แต่นอกจากนี้บริษัทก็ยังเพิ่มรสชาติใหม่ๆ เพื่อให้กลิ่นอายของฤดูร้อนมีความหลากหลายมากขึ้น ได้แก่ Malibu Mango, Malibu Pineapple, Malibu Watermelon, Malibu Strawberry, Malibu Black, และ Malibu Passion Fruit

Malibu รสชาติใหม่ๆ สามารถตอบสนองรสนิยม และความชอบของผู้บริโภคได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้บริษัทยังแนะนำค็อกเทลพร้อมดื่มในรูปแบบกระป๋องให้ผู้บริโภคอีกด้วย สิ่งนี้ทำให้ความนิยมของ Malibu แพร่กระจายไปอย่างกว้างขวาง โดยทุกวันนี้ Malibu สามารถผสมค็อกเทลได้มากกว่า 90 สูตร

ในปี 2002 Malibu ได้รับการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ เมื่อ Pernod Ricard (เพอร์โนด์ ริคาร์ด) ซึ่งเป็นผู้นำระดับโลกในอุตสาหกรรมไวน์และสุราเข้าซื้อกิจการ โดยการเข้าซื้อกิจการในครั้งนี้ทำให้ Malibu สามารถเข้าถึงผู้บริโภคได้มากขึ้น

ปัจจุบัน Malibu ครองตำแหน่งสูงสุดในฐานะเหล้ารัมปรุงแต่งชั้นนำของโลก โดยมีผลิตภัณฑ์วางจำหน่ายกว่า 150 ประเทศทั่วโลก แม้ว่าการผลิตจะไม่เกิดขึ้นเฉพาะในบาร์เบโดสอีกต่อไป แต่แบรนด์ก็ยังคงรักษาเอกลักษณ์ของแคริบเบียน และกลิ่นอายของเกาะบาร์เบโดสเอาไว้