แชร์

Furikake (ฟุริคาเกะ (, ふりかけ)

ผงโรยข้าว หรือ ฟุริคาเกะ (Furikake, ふりかけ) เป็นอีกหนึ่งเครื่องปรุงรสที่ชาวญี่ปุ่นมักจะมีติดไว้ในครัว เนื่องจากผงปรุงรสในรูปแบบนี้ง่ายต่อการรับประทาน เพียงแค่โรยลงไปบนข้าวสวยร้อนๆ หรืออาหารที่ชอบก็ช่วยเพิ่มรสชาติและยกระดับอาหารให้มีความอร่อยขึ้นมาอีกขั้น

จุดกำเนิดจากความขาดแคลนสารอาหารในยุคไทโช

นานมาแล้วที่ฟุริคาเกะถูกยกย่องให้เป็นอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการของประเทศญี่ปุ่น โดยถูกคิดค้นมาตั้งแต่ยุคสมัยไทโช (ค.ศ. 1912-1926) ซึ่งในช่วงเวลานี้ประชากรชาวญี่ปุ่นจำนวนมากประสบปัญหาขาดแคลเซียมและสารอาหาร คุณสุเอคิจิ โยชิมารุ (Suekichi Yoshimaru) เภสัชกรที่อาศัยอยู่ในเมืองคุมาโมโตะ จึงเกิดไอเดียนำกระดูกปลาแห้งมาบดแล้วแนะนำให้ชาวญี่ปุ่นนำไปทานคู่กับข้าว เพื่อให้สามารถใช้เป็นอาหารเสริมแคลเซียมได้

แต่อย่างไรก็ตามรสชาติของกระดูกปลาบดยังไม่ได้เป็นที่ชื่นชอบในกลุ่มเด็กๆ ในภายหลังเขาจึงนำสาหร่ายโนริแห้งและเมล็ดงาคั่วมาบดแล้วนำไปผสมด้วย จนได้มาเป็นผงโรยข้าวสำเร็จรูป ทำออกมาวางขายในขวดแก้วแล้วตั้งชื่อว่า Gohan no Tomo (ご飯の友) มีความหมายว่า เพื่อนคู่เคียงร่วมจานข้าว

การแพร่หลายและวิวัฒนาการรสชาติ

เมื่อเวลาผ่านไปผงโรยข้าวของเขาก็ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ซึ่งความสำเร็จของเขานั้นได้สร้างแรงบันดาลใจให้กับ เซอิจิโร ไค (Seiichiro Kai) เจ้าของร้านสะดวกซื้อจากจังหวัดฟุกุชิมะ ในการทดลองทำผงโรยข้าวในรูปแบบของเขาเอง โดยใช้สาหร่ายคอมบุและปลาคร็อกเกอร์สีขาวเคี่ยวในซอสถั่วเหลืองแล้วทำให้แห้ง จากนั้นนำมาบดทำเป็นผงโรยข้าวออกขายแล้วตั้งชื่อแบรนด์ว่า Kore Wa Umai (これは旨い) มีความหมายว่า นี่คือสิ่งที่ดี

หลังจากนั้นไม่นานฟุริคาเกะของเซอิจิโร ไค ก็ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก จนขยายเข้าไปสู่เมืองหลวงของญี่ปุ่นอย่างโตเกียว และนี่จึงเป็นจุดเริ่มต้นให้เขาสร้างสรรค์ฟุริคาเกะรสชาติใหม่ๆ ขึ้นมา คือ Noritama (โนริทามะ) รสไข่ผสมสาหร่าย ซึ่งเป็นที่ชื่นชอบอย่างมากในกลุ่มเด็กๆ และรสชาตินี้ก็ยังคงมีอยู่จนถึงปัจจุบัน

การยอมรับอย่างเป็นทางการและรสชาติที่หลากหลายทั่วโลก

ต่อมาในปี ค.ศ. 1959 ผงโรยข้าวรูปแบบนี้ก็ถูกเรียกว่า ฟุริคาเกะ (Furikake, ふりかけ) อย่างเป็นทางการ โดยองค์กรปกครอง National Furikake Association นอกเหนือจากการตั้งชื่อประเภทของผงโรยข้าวอย่างเป็นทางการแล้ว พวกเขายังระบุชื่อของสุเอกิจิ โยชิมารุว่าเป็นผู้คิดค้นเพื่อเป็นเกียรติแก่เขาอีกด้วย

ตลอดหลายปีที่ผ่านมาฟุริคาเกะได้ก้าวข้ามพรมแดนออกไปยังประเทศต่างๆ ทั่วโลก จนได้รับการพัฒนาเพื่อตอบสนองรสนิยมและความชอบด้านอาหารที่หลากหลายมากขึ้น แม้ว่ารสชาติคลาสสิกจะยังคงได้รับความนิยม แต่ก็มีตัวเลือกใหม่ๆ เกิดขึ้นมากมาย เช่น รสบุลโกกิซอสย่างสไตล์เกาหลี, รสกิมจิเกาหลี, รสวาซาบิ, รสกุ้งและแอนโชวี่, รสไข่ปลา, รสปลาแซลมอน และอื่นๆ อีกมากมาย

รสชาติที่หลากหลายนี้ไม่เพียงสะท้อนถึงความคิดสร้างสรรค์ของผู้ผลิตเท่านั้น แต่ยังรวมถึงรสนิยมที่เปลี่ยนแปลงไปของผู้บริโภคด้วย ฟุริคาเกะเป็นมากกว่าเครื่องปรุงรส แต่เป็นการแสดงออกถึงนวัตกรรมการทำอาหารของญี่ปุ่นและเป็นหน้าต่างสู่รสนิยมที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลาของผู้คนทั่วโลก

การประยุกต์ใช้ในอาหารญี่ปุ่นและประโยชน์ทางโภชนาการ

แม้ว่าฟุริคาเกะจะเกี่ยวข้องกับข้าวมากที่สุด แต่การนำไปประยุกต์ใช้ก็มีหลากหลาย ในอาหารญี่ปุ่นสมัยใหม่ ชาวญี่ปุ่นนิยมนำไปทานคู่กับบะหมี่ สลัด โรยหน้าข้าวปั้นญี่ปุ่น (โอนิกิริ) หรือทานคู่กับอาหารที่ชอบก็อร่อยเช่นกัน ส่วนเมนูสำหรับเด็กๆ พ่อแม่ส่วนใหญ่มักจะนำไปโรยหน้าข้าวต้ม โจ๊ก หรือข้าวสวย เพื่อช่วยให้เด็กเจริญอาหาร เนื่องจากฟุริคาเกะอุดมไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการที่หลากหลาย ทั้งแคลเซียม โปรตีน และวิตามินต่างๆ ทำให้เป็นเครื่องปรุงที่ทั้งอร่อยและมีประโยชน์

Tags :

บทความที่เกี่ยวข้อง
Künefe (คูเนเฟ)
ทำความรู้จัก Künefe (คูเนเฟ) สุดยอดขนมหวานแห่งอาณาจักรไบแซนไทน์ สู่ไอคอนของตุรเคีย
Budae Jjigae (บูเดชิเก (,부대찌개)
ย้อนรอยประวัติศาสตร์ Budae Jjigae (บูเดชิเก (,부대찌개) อาหารฟิวชันชนิดแรกของประเทศเกาหลี
Ham (แฮม) และ Melon (เมล่อน)
ย้อนรอยประวัติการจับคู่ระหว่าง Ham (แฮม) และ Melon (เมล่อน) อาหารเรียกน้ำย่อยสไตล์อิตาเลียนดั้งเดิม
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ