Organic (ออร์แกนิก)
ในยุคที่ผู้บริโภคเข้าใจคำว่า Organic (ออร์แกนิก) กันมากขึ้น นอกจากผักและผลไม้ที่ต้องออร์แกนิกปลอดสารแล้ว อาหารประเภทเนื้อสัตว์ต่าง ๆ รวมไปถึงไข่ไก่ ผู้ผลิตก็เริ่มหันมาใส่ใจในเรื่องนี้ด้วยแล้วเช่นกัน
ปัจจุบันไข่ออร์แกนิกได้กลายเป็นอาหารหลักของผู้บริโภคที่ใส่ใจสุขภาพจำนวนมาก แต่ประวัติของไข่เหล่านี้ย้อนกลับไปไกลกว่าที่หลายคนคิด อุตสาหกรรมไข่ออร์แกนิกมีรากฐานมาจากขบวนการทำฟาร์มออร์แกนิกที่เริ่มขึ้นในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 ซึ่งการเคลื่อนไหวนี้ถือเป็นการเริ่มต้นที่ดีต่อการเพิ่มขึ้นของอุตสาหกรรมไข่ออร์แกนิกที่งดใช้สารเคมีสังเคราะห์ในการเลี้ยงสัตว์
"บิดาแห่งขบวนการเกษตรอินทรีย์" ในสหรัฐอเมริกา
ขบวนการเกษตรอินทรีย์เกิดขึ้นครั้งแรกในสหรัฐอเมริกา เริ่มขึ้นในปี 1940 โดยการนำของ Rodale Research Institute ซึ่งเป็นองค์กรที่ก่อตั้งโดย J.I. Rodale ผู้ที่ถูกยกย่องให้เป็น บิดาแห่งขบวนการเกษตรอินทรีย์ ในสหรัฐอเมริกา Rodale ได้เผยแพร่ข้อมูลผ่านสถาบันและนิตยสารของเขาเกี่ยวกับเทคนิคการทำฟาร์มและทำสวน ซึ่งข้อมูลเหล่านี้ได้เผยแพร่เกี่ยวกับการกลับไปสู่วิธีการทำฟาร์มแบบดั้งเดิมที่อาศัยกระบวนการทางธรรมชาติและหลีกเลี่ยงสารเคมีสังเคราะห์
จนกระทั่งในช่วงปี 1970 ก็ได้มีการเคลื่อนไหวการทำฟาร์มแบบออร์แกนิกอย่างเต็มตัว เนื่องจากกลุ่มผู้บริโภคจำนวนมากกังวลเกี่ยวกับปัญหาสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของตัวเอง ดังนั้นนอกจากเกษตรอินทรีย์ที่เติบโตขึ้น อุตสาหกรรมไข่ออร์แกนิกก็ได้เริ่มต้นขึ้นด้วยเช่นกัน
ผู้บุกเบิกและมาตรฐาน "USDA Organic"
Gene Logsdon คือหนึ่งในผู้บุกเบิกอุตสาหกรรมไข่ออร์แกนิก เขาเป็นนักเขียนและเกษตรกรที่เชื่อในหลักการของการทำเกษตรอินทรีย์ และเขียนเกี่ยวกับประสบการณ์ของเขาในการเลี้ยงไก่โดยไม่ใช้ยาปฏิชีวนะหรือสารเคมีสังเคราะห์ จากนั้นเขาจึงกลายเป็นแกนนำสนับสนุนอุตสาหกรรมไข่ออร์แกนิกและช่วยเผยแพร่แนวคิดเรื่องไข่ออร์แกนิกในสหรัฐอเมริกา จนได้รับการสนับสนุนจากองค์กรการผลิตอาหารอินทรีย์ในปี 1990 ซึ่งกำหนดมาตรฐานแห่งชาติสำหรับการทำเกษตรอินทรีย์และการติดฉลาก USDA Organic
ข้อกำหนดสำคัญในการผลิต "ไข่ออร์แกนิก"
ผู้ผลิตไข่ออร์แกนิกจำเป็นต้องรักษามาตรฐานสองสามข้อที่เหนือกว่ามาตรฐานที่ผู้ผลิตไข่ทั่วไปกำหนดไว้ เช่น:
ป้อนอาหารออร์แกนิกให้แม่ไก่: อาหารต้องปราศจากปุ๋ยสังเคราะห์ ยาฆ่าแมลง สารเคมีอื่น ๆ และอาหารที่ถูกดัดแปลงทางพันธุกรรม (GMOs)
ห้ามให้ยาปฏิชีวนะเป็นประจำ
สภาพแวดล้อมที่ปราศจากกรงขัง: ให้พื้นที่ในร่มเพียงพอ เพื่อป้องกันความแออัดและตึงเครียด ปล่อยให้ไก่ได้รับอากาศบริสุทธิ์และแสงแดด ได้เดินเตร็ดเตร่หาอาหารจากธรรมชาติ เช่น พืช ด้วง และแมลงต่าง ๆ ซึ่งจะช่วยเพิ่มสารอาหารที่หลากหลาย และช่วยให้ไก่มีสุขภาพแข็งแรง ฉะนั้นไข่จะออร์แกนิกได้ แม่ไก่ต้องได้ทานอาหารที่เป็นออร์แกนิกและถูกเลี้ยงดูในสภาพแวดล้อมที่ดี มีความสุข ไม่ตึงเครียด
ประโยชน์ของไข่ออร์แกนิก: สารอาหารและทางเลือกที่ยั่งยืน
ประโยชน์หลัก ๆ ของไข่ออร์แกนิกคืออุดมไปด้วยสารอาหารมากกว่าไข่ทั่วไป จากการศึกษาพบว่าไข่ออร์แกนิกมีวิตามินเอมากกว่า 40% และกรดไขมันโอเมก้า 3 มากกว่าไข่ทั่วไปถึง 2 เท่า และนอกจากจะดีต่อสุขภาพแล้ว ไข่ออร์แกนิกยังเป็นทางเลือกที่ยั่งยืนกว่าอีกด้วย เพราะการทำเกษตรอินทรีย์ให้ความสำคัญกับการปกป้องและอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ซึ่งอาจส่งผลดีต่อสุขภาพของดิน น้ำ และความหลากหลายทางชีวภาพได้ด้วย
ถึงแม้ไข่ออร์แกนิกจะมีราคาที่สูงกว่า แต่ก็มีเหตุผลหลายประการที่ผู้บริโภคเลือกซื้อไข่ออร์แกนิก นั่นก็คือเชื่อว่าไข่ออร์แกนิกดีต่อสุขภาพมากกว่า นอกจากนี้ ผู้บริโภคยังคาดหวังว่าแม่ไก่ที่ผลิตไข่เหล่านั้นจะได้รับการปฏิบัติอย่างมีจริยธรรมและมีมนุษยธรรม ซึ่งแสดงให้เห็นว่าผู้บริโภคส่วนใหญ่มีความกังวลเกี่ยวกับสวัสดิภาพของสัตว์ในฟาร์มที่ใช้ผลิตอาหารของตัวเอง นี่จึงเป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่พวกเขายินดีจ่ายเงินมากขึ้นเพื่อซื้อผลิตภัณฑ์ออร์แกนิกนั่นเองค่ะ