แชร์

Liquid Smoke หรือ ควันเหลว

แนวคิดการรมควันอาหารมีประวัติศาสตร์มาอย่างยาวนาน โดยอารยธรรมโบราณมักจะใช้เทคนิคต่างๆ ในการรมควัน แต่ในสมัยนั้นการรมควันไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างกลิ่นหอมอันเป็นเอกลักษณ์ แต่การรมควันในอดีตถือเป็นเทคนิคการถนอมอาหารอีกรูปแบบหนึ่ง

ในยุคแรกๆ เชื่อกันว่าผู้คนที่อาศัยอยู่ในถ้ำ ซึ่งน่าจะยังไม่มีปล่องไฟ มักจะแขวนเนื้อสัตว์ไว้ให้แห้งโดยการรมควัน สิ่งนี้ทำให้พวกเขาค้นพบว่านอกจากควันจะช่วยรักษาเนื้อสัตว์แล้ว ยังช่วยทำให้เนื้อมีกลิ่นและรสชาติที่ดีขึ้นด้วย

ตลอดหลายศตวรรษที่ผ่านมาการรมควันเนื้อสัตว์ยังคงเป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวาง ซึ่งผู้คนในยุคต่อมายังค้นพบอีกว่าไม้แต่ละชนิดที่นำมารมควันจะให้กลิ่นหอมที่แตกต่างกันออกไป นี่จึงเป็นที่มาของการรมควันในอาหาร เพื่อสร้างอรรถรสในการทาน โดยไม่ได้มีจุดประสงค์เพื่อถนอมอาหารอย่างเดียวอีกต่อไป

จากยุคเตาแก๊ส สู่การคิดค้น Liquid Smoke (ปลายศตวรรษที่ 19)

ในยุคสมัยใหม่การทำอาหารด้วยเตาไฟแบบดั้งเดิมเริ่มลดน้อยลง โดยเฉพาะการทำอาหารในบ้าน ผู้คนเริ่มหันมาใช้เตาแก๊ส ซึ่งมีควันน้อยมาก ด้วยเหตุนี้จึงมีการคิดค้น Liquid Smoke หรือควันเหลว ขึ้นมา เพื่อสร้างกลิ่นควันให้กับอาหาร โดยไม่ต้องใช้เตาแบบดั้งเดิม

Liquid Smoke หรือควันเหลว เป็นสารปรุงแต่งอาหารชนิดหนึ่งที่มีลักษณะเป็นของเหลวสีเหลืองถึงสีแดง นิยมใช้แทนการรมควันแบบดั้งเดิมเพื่อเพิ่มกลิ่นและรสชาติรมควันให้กับอาหาร โดยไม่ต้องใช้เตารมควันหรือเผาไม้จริง

แนวคิดการประดิษฐ์ Liquid Smoke เริ่มต้นมาจาก Ernest H. Wright (เออร์เนสต์ เอช. ไรต์) เภสัชกรจากแคนซัสซิตี (Kansas) เมืองที่ใหญ่ที่สุดของรัฐมิสซูรี (Missouri) ประเทศสหรัฐอเมริกา ในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 เรื่องราวเล่าว่า Wright ได้แรงบันดาลใจจากการเห็นของเหลวหยดลงมาในท่อของเตาขณะจุดไฟรมควัน ด้วยเหตุนี้เขาจึงเริ่มทดลองสร้าง Liquid Smoke

กระบวนการผลิตและการรับรองจาก FDA (ค.ศ. 1895 - 1960)

การทดลองของ Wright พบว่าของเหลวที่ไหลลงมาในท่อของเตานั้นเกิดจากการควบแน่นที่ได้มาจากควันที่ผ่านความเย็น หลังจากนั้นเขาจึงเริ่มพัฒนา Liquid Smoke ด้วยการพ่นควันจากการเผาไม้ฮิกคอรีผ่าน คอนเดนเซอร์ (Condenser) ตัวแลกเปลี่ยนความร้อนที่ใช้ในการควบแน่นสารที่เป็นก๊าซให้เปลี่ยนสถานะเป็นของเหลวผ่านการทำความเย็น จนได้มาเป็น Liquid Smoke

เป้าหมายของ Wright ในการสร้าง Liquid Smoke คือใช้เป็นทางเลือกที่สะดวกสบายในการเพิ่มกลิ่นควันให้กับอาหาร โดยไม่ต้องใช้เตาไฟแบบดั้งเดิม อีกทั้งการใช้ Liquid Smoke ยังสามารถช่วยยืดอายุการเก็บรักษาอาหาร ป้องกันการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย ปราศจากสารก่อมะเร็งที่อาจเกิดจากการรมควันแบบดั้งเดิมได้ด้วย

ในปี 1895 Wright ได้จดสิทธิบัตรของเขาสำหรับ Liquid Smoke และในปี 1960 Liquid Smoke ก็ได้รับการอนุมัติจาก FDA (องค์การอาหารและยาสหรัฐ) ด้วยเหตุนี้ความนิยมจึงแพร่ขยายไปทั่วสหรัฐอเมริกา โดยผู้คนมักจะนำไปพ่น หรือทาลงบนเนื้อสัตว์ เบคอน ไส้กรอก ชีส หรือหยดลงบนอาหารที่ปรุงเสร็จแล้ว รวมถึงนำไปผสมลงในซอส ซุป และน้ำสลัดได้ด้วย

ความนิยมและการพัฒนาในปัจจุบัน

ปัจจุบัน Liquid Smoke ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นในต่างประเทศ บริษัทยังคงพัฒนาผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง โดยเริ่มทดลองทำ Liquid Smoke จากไม้ประเภทต่างๆ เพื่อให้ได้รสชาติ และกลิ่นที่มีความหลากหลายมากขึ้น

Tags :

บทความที่เกี่ยวข้อง
ความเชื่อเรื่อง ควรทานหอยนางรมเฉพาะในเดือนที่มีตัว R
ย้อนรอยประวัติศาสตร์ความเชื่อเรื่อง ควรทานหอยนางรมเฉพาะในเดือนที่มีตัว R
Wagyu (วากิว)
ย้อนรอยประวัติศาสตร์ Wagyu (วากิว) เนื้อวัวพรีเมี่ยมจากแดนอาทิตย์อุทัย
Beef Stroganoff (เนื้อสโตรกานอฟ)
ทำความรู้จัก Beef Stroganoff (เนื้อสโตรกานอฟ) อาหารดั้งเดิมของรัสเซียในศตวรรษที่ 19
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ