Schneider Weisse (ชไนเดอร์ ไวส์)
จุดเริ่มต้นของ Schneider Weisse
Schneider Weisse (ชไนเดอร์ ไวส์) คือโรงเบียร์เก่าแก่ และมีชื่อเสียงจากประเทศเยอรมนี ก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1872 ที่เมืองมิวนิก โดย Georg Schneider I และลูกชายของเขา โรงเบียร์แห่งนี้มีชื่อเสียงในการผลิตเบียร์สไตล์ Weissbier (เบียร์ข้าวสาลี) ของบาวาเรีย ซึ่งผลิตด้วยวิธีการดั้งเดิม และใช้วัตถุดิบคุณภาพสูงยุคที่เบียร์ข้าวสาลีถูกผูกขาด
เรื่องราวของ Schneider Weisse เริ่มต้นขึ้นในยุคที่การผลิตเบียร์ข้าวสาลีในบาวาเรียถูกจำกัดไว้เฉพาะราชวงศ์ และชนชั้นสูงเท่านั้น เนื่องจากในยุคนั้นการผลิตเบียร์ของประชาชนทั่วไปยังคงถูกจำกัดโดย กฎ Reinheitsgebot (Beer Purity Law) ที่ประกาศในปี 1516 ซึ่งกำหนดให้ใช้ส่วนผสมเพียงน้ำ ฮ็อปส์ และมอลต์ข้าวบาร์เลย์เท่านั้นความนิยมที่เสื่อมถอยและโอกาสของ Georg Schneider I
เมื่อการผลิตเบียร์ข้าวสาลีถูกผูกขาด ในเวลาต่อมาเบียร์ชนิดนี้ก็เริ่มเสื่อมความนิยมลง เนื่องจากเบียร์สไตล์ Braunbier และเบียร์ลาเกอร์เข้ามาได้รับความนิยมแทนที่อย่างไรก็ตาม Georg Schneider I ผู้ก่อตั้ง Schneider Weisse ไม่ย่อท้อ เขามองเห็นศักยภาพของเบียร์ข้าวสาลีจึงประมูลการครอบครองสิทธิ์การผลิตเบียร์ข้าวสาลีจากราชสำนัก จากนั้นจึงก่อตั้งโรงเบียร์ของตนเองขึ้นมาในปี ค.ศ. 1872 ที่เมืองมิวนิก ภายใต้ชื่อ G. Schneider & Sohn ซึ่งต่อมาได้เปลี่ยนมาเป็น Schneider Weisse ในปัจจุบัน
จุดเปลี่ยนในประวัติศาสตร์เบียร์ข้าวสาลี
ในยุคนั้นการผลิตเบียร์ข้าวสาลีเป็นอภิสิทธิ์เฉพาะราชวงศ์ และชนชั้นสูง ดังนั้นการที่ Georg Schneider I ซึ่งเป็นเพียงประชาชนทั่วไปได้รับใบอนุญาตในการผลิตเบียร์ข้าวสาลีเป็นคนแรก จึงถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในประวัติศาสตร์ของเบียร์สไตล์ WeissbierSchneider Weisse ในช่วงสงครามโลก
การเดินทางของ Schneider Weisse ไม่ได้ราบรื่นเสมอไป ในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง โรงเบียร์ในมิวนิกได้รับความเสียหายอย่างหนัก ทำให้ลูกหลานของตระกูล Schneider ต้องย้ายฐานการผลิตไปยังเมือง Kelheim ในปี ค.ศ. 1944 ซึ่งเป็นที่ตั้งเดิมของโรงเบียร์ Weisses Bräuhaus ที่สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1607 โดยดยุก Maximilian I แห่งบาวาเรียปรัชญาการผลิตที่ผสมผสานประเพณีและนวัตกรรม
แม้จะย้ายที่ตั้ง และต้องเผชิญกับความท้าทายต่าง ๆ แต่ Schneider Weisse ก็ยังคงรักษาปรัชญาในการผลิตเบียร์ที่ผสมผสานระหว่างประเพณี และนวัตกรรมเข้าไว้ด้วยกัน พวกเขายังคงใช้สูตรดั้งเดิมที่สืบทอดกันมาจากรุ่นสู่รุ่น โดยเน้นการใช้ส่วนผสมจากธรรมชาติคุณภาพสูง และกระบวนการหมักแบบพิเศษที่ทำให้เกิดรสชาติที่ซับซ้อน และมีกลิ่นหอมเฉพาะตัวการพัฒนาสูตรใหม่และความหลากหลาย
ในขณะเดียวกัน Schneider Weisse ก็ไม่หยุดนิ่งในการพัฒนารสชาติใหม่ ๆ และแนะนำเบียร์ข้าวสาลีประเภทต่าง ๆ ออกสู่ตลาด เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่หลากหลาย แต่ไม่ว่าจะเป็นเบียร์สไตล์ไหน พวกเขาก็ยังคงยึดมั่นในคุณภาพ และความเป็นเอกลักษณ์ของ Schneider Weisse เสมอจุดเด่นสำคัญของ Schneider Weisse
- Traditional Bavarian Wheat Beer (เบียร์ข้าวสาลีแท้แบบดั้งเดิม) : ผลิตด้วยกรรมวิธีที่สืบทอดมาจากสูตรต้นตำรับตั้งแต่ปี 1872 เช่น การหมักแบบเปิด (Open fermentation) และการหมักต่อในขวด (Bottle fermentation)
- กลิ่นและรสชาติโดดเด่น : มีกลิ่นหอมหวานของผลไม้เมืองร้อน เช่น สับปะรด กลิ่นดอกไม้ และเกสรฮ็อปส์ที่เข้มข้น รสสัมผัสนุ่มนวล มีความหวานคล้ายขนม และบางสูตรอาจมีกลิ่นโยเกิร์ตแทรกเล็กน้อย
- ความหลากหลายของสูตรเบียร์ (TAP Series) : เช่น TAP5 Hopfenweisse ที่เป็นเบียร์ข้าวสาลีฮ็อปส์เข้มข้น ผสมรสผลไม้สไตล์ Weizen
- วัตถุดิบคุณภาพสูง : ใช้มอลต์ข้าวสาลี ข้าวบาร์เลย์ และฮ็อปส์คุณภาพจากบาวาเรีย ทั้งพันธุ์ดั้งเดิมและพันธุ์ใหม่ เพื่อสร้างความสมดุลของกลิ่นและรสชาติ
ความนิยมและชื่อเสียงระดับโลก
ด้วยรสชาติที่นุ่มนวล และกลิ่นหอมหวานที่ไม่ขมจัด ทำให้ Schneider Weisse เป็นเบียร์ที่ดื่มง่าย และได้รับความนิยมในหมู่ผู้บริโภคหลากหลายกลุ่ม จนกลายเป็นเบียร์ที่มีชื่อเสียงและได้รับการยกย่องทั้งในเยอรมนี และต่างประเทศ
การสืบทอดและการบริหารในปัจจุบัน
ปัจจุบันการบริหารงานของโรงเบียร์ Schneider Weisse อยู่ภายใต้การดูแลของ Georg Schneider VI ซึ่งเป็นทายาทรุ่นที่ 6 ผู้ยังคงยึดมั่นในปรัชญาที่ผสมผสานระหว่างการเคารพในประวัติศาสตร์เบียร์ และการแสวงหานวัตกรรมใหม่ ๆ เพื่อยืนยันความเป็นผู้นำในวงการเบียร์ข้าวสาลีของโลก
บทความที่เกี่ยวข้อง
ย้อนรอยประวัติศาสตร์ Lambrusco (ลัมบรุสโก) สปาร์กกลิ้งไวน์เก่าแก่ของอิตาลีที่มีมาตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 7 ก่อนคริสตศักราช
ทำความรู้จัก Umeshu (อุเมะชู,梅酒) เหล้าบ๊วยญี่ปุ่น: เครื่องดื่มที่ได้รับการขนานนามว่าเป็นยาชูกำลังชั้นเลิศและมรดกทางวัฒนธรรม
ความหลงใหลในเครื่องดื่มของ Gaspare Campari (กาสปาเร่ คัมปาริ) นำมาสู่ Bitter สมุนไพรสีแดงสดใสที่เชื่อมโยงคนทั้งโลกผ่าน Classic Cocktail และงานศิลป์